กำไรสุทธิกลับมา +4.6% หลังจาก Q2 ติดลบ 1.6%
รายได้โตจากขยายสาขา แต่ SSSG ติดลบ ลูกค้าหาย ยอดซื้อหด ปรับ mix ขายของกำไรดีขึ้น แต่ค่าเสื่อมก็ยังคงกดดันอยู่

ปี 2559 ยอดขาย 1,448 ล้านบาท (+10%) SSSG 1.6%
ปี 2560 ยอดขาย 1,598 ล้านบาท (+10.3%) SSSG 1.5%
Q1’61 ยอดขาย 422 ล้านบาท (+11.9%) SSSG 0.9%
Q2’61 ยอดขาย 430 ล้านบาท (+10.3%) SSSG 0.4%
Q3’61 ยอดขาย 440 ล้านบาท (+10.5%) SSSG -2.9%
..
ยอดขายโตสม่ำเสมอมากบวก 10% ตลอด แต่หลัก ๆ มาจากการขยายสาขาใหม่ ปีนึงก็เปิดประมาณ 4-5 สาขา ปีที่แล้วมี 19 สาขา สิ้นปีนี้จะมี 24 สาขา โดยเกือบทั้งหมดอยู่ที่เชียงราย และมี 2 สาขา อยู่ที่พะเยา
..
เรื่องที่น่าห่วงคือ SSSG หดตัวเรื่อย ๆ จนมาติดลบ สาเหตุก็เพราะยอดซื้อต่อบิล และจำนวนบิลลดลง แปลง่าย ๆ คือ ลูกค้าหาย ซื้อของถูกลง ซึ่งเป็นได้ว่า
.
• ลูกค้าหาย เกิดจาก เปิดร้านเพิ่มขึ้นในจังหวัดเดียวกัน คนก็เลยไปสาขาใกล้บ้าน เรียกง่าย ๆ ว่า กินกันเอง เรียกยาก ๆ ว่า Cannibalization
.
• ซื้อของถูกลง อันนี้แปลกมากเพราะได้ธงฟ้ามา 10 สาขา แบบเต็มไตรมาสในรอบนี้ โดยปกติ พฤติกรรมของลูกค้าธงฟ้าที่ได้เงินมาฟรีทุกเดือนจะซื้อสินค้าจำเป็นและมีขนาดใหญ่ เช่น ข้าว นม ผงซักฟอก สบู่ ยาสีฟัน แต่ TNP กลับมียอดซื้อลดลง ผิดปกติ
..
สรุปแค่ตรงนี้ก่อนเลยว่า ถ้าในอนาคตไม่ได้มีแผนเปิดสาขาเพิ่มมาก ๆ หรือร้านใหม่กินร้านเก่าเยอะ รายได้อาจจะมีแนวโน้มชะลอลงได้
..
=========================
.
ปี 2559 GPM 12.7% NPM 3.8%
ปี 2560 GPM 13.3% NPM 3.8%
Q1’61 GPM 13.8% NPM 3.7%
Q2’61 GPM 13.6% NPM 3.2%
Q3’61 GPM 14.1% NPM 3.5%
..
GPM เริ่มสูงขึ้น เกิดจากการปรับ mix ขายสินค้าที่กำไรดีขึ้น และ mix ของร้านค้าปลีกมากกว่าร้านค้าส่งสูงขึ้นตามการขยายสาขา (คือ TNP มีสาขาขายส่งหนึ่งแห่งที่สำนักงานใหญ่ สัดส่วนยอดขาย 14-15%) และได้รับเงินสนับสนุนการขายจาก supplier เพิ่มขึ้นตามการเติบโตของยอดขาย
….
แต่ SG&A บวมกว่ายอดขายที่เพิ่ม หลัก ๆ มาจากค่าเสื่อมของศูนย์กระจายสินค้า ที่เปิดเมื่อกลางปีที่แล้ว ทำให้ NPM ดูไม่ค่อยเติบโตเท่าไหร่
..
ถ้าพูดถึงเรื่องราคา หุ้นตัวนี้เข้าตลาดมาปี 2558 ด้วยราคา IPO 1.75 บาท ก่อนวิ่งขึ้นมาตลอดทางไป High ที่ 3.98 บาท เมื่อมกราคม 2560 และได้สร้างยอดดอยที่ตรงนั้น ก่อนจะร่วงลงมาเรื่อย ๆ ล่าสุดมาอยู่ที่ 1.78 บาท PE ประมาณ 21-22 เท่า แปลว่าเมื่อก่อน PE สูงมากนะ