PK กำไรดี แต่ร่วงแรง

หลายคนถามว่า PK กำไรโต 255% เพิ่มจาก 67 เป็น 238 ล้านบาท แต่ทำไม 2-3 วันนี้ราคาถึงได้ลงมาแรงขนาดนี้ จากกการสังเกตของผมคิดว่าน่าจะมาจากปัจจัยเหล่านี้

1) กำไร Q4 ไม่โตมากเทียบกับ Q ที่ผ่านมา
.
ถ้าเราดู Q2 กำไร +324% Q3 กำไร +67% Q4 กำไร +44% และตลาดหุ้นคือตลาดของความคาดหวังกับอนาคต นักลงทุนอาจจะเริ่มเกิดความกังวลว่า ปี 2560 ฐานเริ่มสูง ปีนี้จะโตได้ดีเหมือนปีที่แล้วมั้ย บวกกับธุรกิจของ PK ขึ้นอยู่กับการลงทุนในเครื่องจักรของภาคเอกชน และที่ผ่านมารายได้ก็ไม่ค่อยคงที่มาก เลยน่าจะกังวลในจุดนี้
.
2) จ่ายปันผลน้อยผิดคาด
.
หลายคนคำนวณว่าปี 2559 จ่าย 0.08 บาท จาก EPS 0.20 บาท ก็ 40% แต่ปีนี้ประกาศจ่ายแค่ 0.12 บาท จาก EPS 0.57 บาท หรือแค่ 21% เท่านั้นเอง หายไปเท่าตัว ทำให้เกิดความผิดหวัง ขายหุ้นกันออกมา
.
3) ราคาเหล็กเริ่มสูงขึ้นกระทบต้นทุน
.
เมื่อตอน Q3 PK สต็อควัตถุดิบไว้เพียบ ซึ่งก็สะท้อนมาในรูปของรายได้ที่โตเยอะใน Q4 และได้ประโยชน์จากการมีต้นทุนที่ถูก แต่ตอนนี้ราคาเหล็กเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้อาจเกิดความกังวลในอนาคตว่าต้นทุนของ PK จะเริ่มสูงขึ้น และส่งผลต่อกำไรได้
.
4) ลูกหนี้การค้าเริ่มเพิ่ม
.
ในงบปีเราจะเริ่มเห็นสัญญาณว่าลูกหนี้การค้าไม่เกิน 3 เดือนเริ่มเพิ่มสูงขึ้น จริงอยู่ที่ว่ายังคงอยู่ในขอบเขตระยะเวลาการขายสินค้าของบริษัทที่ 86 วัน แต่เพราะในอดีต PK เคยล้มมาก่อนจากปัญหาลูกหนี้ หลายคนก็อาจเริ่มกังวลกันบ้าง
.
5) PK มาจากราคา 3 บาท
.
ถ้าย้อนกลับไปดูรอบ 1 ปีที่แล้ว PK เคยอยู่ที่ 3 บาท กว่า ๆ แล้วก็ลากขึ้นมาแถว ๆ 7 บาท ก่อนพักตัวอยูที่ 5 บาท สักพักนึง ลากขึ้นลากลงก่อนที่ล่าสุดใกล้งบออกก็มาพีคเกือบ 8 บาท แล้วก็จบด้วยการ Sell on Fact แบบที่เห็นในช่วงนี้ สิ่งที่ผมกำลังจะบอกคือ มีคนที่ต้นทุนต่ำมากอยู่ ซึ่งเค้าได้เปรียบในการกำหนดรูปแบบการเล่นว่าจะเขย่ายังไง เล่นรอบแบบไหน และกับการที่เพียง 1 ปี จาก 3 มา 8 บาท ก็ถือว่าได้กำไรพอสมควรเลยนะ
.
โดยรวมผมสรุปว่า PK จบรอบและหมดความน่าตื่นเต้น แต่ถ้ามีในอนาคตมี story หรือ มีแนวโน้มของยอดขายที่ดี ขยายตลาด CLMV ได้มาก ต้นทุนเหล็กลดลง ด้วยการที่มี P/E แค่ 12 เท่า PK ก็อาจจะกลับมาได้อีกรอบ
.
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ตลาดหุ้นไม่เคยง่าย อะไรที่คิดว่าแน่ ๆ มันก็อาจจะไม่เป็นอย่างที่คาด แต่สิ่งที่สำคัญคือ เราต้องมีแผนการที่ชัดเจนว่า จะซื้อหุ้นตัวนี้เพราะอะไร จะขายที่ราคาไหน เมื่อไหร่ จะเล่นสั้นหรือยาว และถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามแผนเราจะทำอย่างไร
.
จงวางแผนให้รอบคอบเวลาที่มีสติ เพราะวันที่หุ้นตกรุนแรง เราจะไม่มีสติในการวางแผน
และสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ จงทำตามแผนที่ได้วางไว้ ถึงแม้ต้องปวดใจเพราะขาดทุนจนลืมไม่ลง