MOONG – มุ่งไปข้างหน้า เพื่อการเติบโต?

พูดถึงชื่อบริษัท “มุ่งพัฒนา” หลายคนอาจไม่ค่อยรู้จัก แต่ถ้าพูดถึงแบรนด์สินค้าเด็ก “พีเจ้น – Pigeon” น่าจะพอคุ้นหูกันอยู่บ้าง และเป็นสินค้าหลักของบริษัทด้วยสัดส่วนเกือบ 80%
.
ประเด็นที่น่าสนใจคืองบ Q1’61 กำไรสุทธิโต +70% จากที่เมื่อปีก่อน ๆ ก็ไม่ค่อยโตเท่าไหร่ เริ่มรู้สึกสนใจกันแล้วใช่มั้ย มาทำความรู้จัก MOONG กันให้ลึกขึ้นดีกว่าครับ

MOONG ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 โดยคุณสุเมธ เลอสุมิตรกุล ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด 54.4% (เมื่อก่อนถือกว่า 60% แต่ก็เห็นทยอยขายออกมาทุกปี ทำไมนะ?) ตัวธุรกิจหลัก ๆ เป็นการจัดจำหน่ายและทำการตลาดสินค้า มีสัดส่วนรายได้ คือ
.
79% ขายสินค้าแบรนด์พีเจ้น ทั้งจุกนม ขวดนม ผ้าเช็ดผิวแบบเปียก เครื่องปั๊มนม ซึ่งจริง ๆ แล้วแบรนด์นี้เป็นของ Pigeon ประเทศญี่ปุ่นให้สิทธิ์ในการขาย โดยพีเจ้นขายพวกจุกนม ขวดนมดี มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ด้วย share 38%
..
12% เป็นสินค้าแบรนด์ตัวเอง เช่น กระบอกฉีดน้ำ Foggy (น่าจะคุ้น ๆ กันที่เอาไว้ฉีดน้ำรีดผ้า ฉีดกระถางดอกไม้) สำลี V-Care เป็นต้น
..
9% เป็นแบรนด์อื่นที่รับมาจัดจำหน่ายให้ เช่น แปรงสีฟัน Jordan, ผ้าอนามัย Midori, ยาสีฟัน Tree Herb และอื่น ๆ อีกมากมาย (เอาจริง ๆ ก็เป็นแบรนด์เล็กถึงกลางที่ไม่ค่อยรู้จักมากนัก)
..
** ผลประกอบการเป็นอย่างไร **
.
ปี 2558 ยอดขาย 666 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท (GPM 53.1% NPM 9.9%)
ปี 2559 ยอดขาย 704 ล้านบาท กำไรสุทธิ 78 ล้านบาท (GPM 52.2% NPM 9.8%)
ปี 2560 ยอดขาย 795 ล้านบาท กำไรสุทธิ 78 ล้านบาท (GPM 52.1% NPM 8.9%)
Q1’60 ยอดขาย 184 ล้านบาท กำไรสุทธิ 19 ล้านบาท (GPM 50.7% NPM 9.9%)
Q1’61 ยอดขาย 205 ล้านบาท กำไรสุทธิ 32 ล้านบาท (GPM 52.8% NPM 13.6%)
..
ยอดขายเพิ่มทุกปี ก็ในระดับประมาณ +10% GPM ดูสูงดีอยู่ในระดับ 50% กว่า ๆ แต่กำไรสุทธิไม่ค่อยโตเท่าไหร่ ส่วนนึงก็เพราะมี SG&A ที่ใช้เยอะในค่าคน ค่ากระจายสินค้า แต่มา Q1 ปีนี้ดูแปลกไปเพราะ
.
• ยอดขายเพิ่มมาประมาณ 11% จาก MD&A บอกว่าสินค้าแม่และเด็กขายดี ช่องทางออนไลน์โต และการส่งออกไปขายที่ลาวดี ต่างประเทศจริง ๆ ยังเล็กอยู่มากแค่ 2% เอง แต่ว่าบริษัทเริ่มขยายออกไป เช่น ที่ลาว ก็เริ่มไปขายตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เหมือนจะเริ่มเห็นผลตอนนี้
.
• ต้นทุนขายเพิ่มน้อยมาก +6.5% อันนี้สงสัยเหมือนกันว่าทำไม และไม่แน่ใจว่าต่อเนื่องมั้ย แต่ว่าเป็น Key ที่ทำให้ GPM สูงกว่าปีก่อนเยอะ
.
• SG&A สัดส่วนประมาณ 50% ของรายได้รวม ก็เพิ่มมา 11% ตามยอดขาย
.
• ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนบริษัทร่วม คือ MOONG มีบริษัทร่วมชื่อ ไทยพีเจ้น (TP) ถือหุ้นอยู่ 47% ทำร่วมกับพีเจ้น ญี่ปุ่น ผลิตพวกขวดนม จุกนม โดยวัตถุดิบนำเข้ามาจากต่างประเทศ ถ้าดูตามงบการเงินกำไรส่วนนี้ก็จะบวกเข้าตรง ๆ กับ EBIT เลย ซึ่งรอบ Q1 นี้ได้มาเยอะเลยทำให้เห็นว่ากำไรสุทธิสูงขึ้น อาจจะเป็นที่ขายดี กับ เงินบาทแข็งด้วย เลยได้ประโยชน์เพิ่มเติม
..
==========================
.
** Growth Story **
.
1) CLMV ต้องมาลุ้นว่า ลาว จะขายได้ดีแค่ไหน และกำลังหาตัวแทนจำหน่ายที่พม่ากับเวียดนามอยู่ แต่อย่างที่บอกไปว่าสัดส่วนต่างประเทศแค่ 2% เอง น้อยมาก แต่ก็ให้จับตาไว้เผื่อจะเติบโตได้ในระยะยาว
.
2) ช่องทางออนไลน์ดูน่าสนใจและอาจจะโตได้เยอะถ้ามีการทำตลาดดี
.
3) ต้นทุนขาย อันนี้ต้องลองไปเช็คดูกันครับว่าจะควบคุมได้ดีเรื่อย ๆ มั้ย ถ้าใช่ผมว่าอันนี้ช่วยได้เยอะ
.
** ความเสี่ยงคืออะไรบ้าง **
.
1) คดีฟ้องร้อง ตั้งแต่ปี 2555 เกี่ยวกับสัญญาการจัดจำหน่ายสินค้ากับบริษัทแห่งหนึ่ง ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลฎีกาพิจารณาอยู่ บริษัทคิดว่าน่าจะชนะเลยยังไม่ตั้งสำรองหนี้ไว้ แต่เรื่องของเรื่องคือ ผ่านมา 2 ศาล ทั้งชั้นต้นกับอุทธรณ์ มีคำพิพากษาว่าให้บริษัทจ่าย 6 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี ก็ต้องรอลุ้นดูว่าจะชนะหรือแพ้ในศาลสุดท้าย
.
2) เด็กเกิดน้อยลงทุกปี ประมาณ 3.6% ต่อปี จากที่เคยมีอัตราการเกิดประมาณ 8 แสนคนต่อปี ก็ลดลงมาเรื่อย ๆ จนตอนนี้เกิดอยู่ราว ๆ 7 แสนคน ซึ่งสินค้าของบริษัทพึ่งพากับแม่และเด็กเป็นหลัก
.
3) CFO น้อยมาก ไม่ถึง 10 ล้านบาท น้อยกว่ากำไรสุทธิ และบางปีติดลบ ทั้ง ๆ ที่ธุรกิจเองก็น่าจะมีกระแสเงินสดไหลเวียนได้ดีอยู่ อันนี้แค่แปลกใจอาจจะไม่เสี่ยงก็ได้
..
สรุปต้องติดตามว่า MOONG จะโตต่อเนื่องได้แค่ไหน ถ้ารักษาต้นทุนได้ กำไรจากบริษัทร่วมมาต่อเนื่อง ออนไลน์ และต่างประเทศเติบโตก็น่าสนใจ อาจจะมีติดบ้างก็ตรงเจ้าของทำไมขายหุ้นทุกปี และราคาหุ้นก็บทจะเงียบก็เงียบ บทจะเหวี่ยงก็เหวี่ยง ใครสนใจลองพิจารณากันดูครับ