Q3’61 กำไรทำสถิติสูงสุดที่ 45 ล้านบาท โตขึ้น 24% น้อยกว่า 2 ไตรมาสที่ผ่านมา คือ Q1 +60% และ Q2 +90% ต้องบอกแบบนี้ว่า

• รายได้โตดี +21% >> มาจากคนไข้ล้นทะลัก โดยเฉพาะเด็กที่ป่วยจำนวนมากใน Q3 จากหลายโรค ซึ่งเห็นแบบนี้ในหลายโรงพยาบาล
..
• ต้นทุนเพิ่มน้อยกว่า +14% >> อันนี้ดีแสดงถึงการบริหารจั ดการที่ดี
.
• SG&A +33% >> อันนี้ไม่ดี เพิ่มมาจากค่าคอมมิชชั่นที่ จ่ายให้เอเจนซี่ที่ไปหาลูกค ้า IVF เข้ามา
..
ขยายความแบบนี้ครับ ตอนนี้ EKH ใช้เอเจนซี่เจ้าหลัก คือ คุณ Hong Yantang ที่เป็นหุ้นส่วนในบริษัทย่อ ยของเอกชัย และเป็นนักธุรกิจที่เซียะเห มิน ประเทศจีน คอยรวบรวมคนจีนที่อยากมีลูก แล้วมาส่งต่อให้ EKH แต่นอกจาก Hong แล้วก็ยังมี agency เจ้าอื่น ๆ อีก
..
ค่าทำ IVF 400,000 บาท ก็จะมีส่วนหนึ่งที่หักเป็นค ่าคอมให้เอเจนซี่ ส่วนนี้แหละที่มันเยอะ อาจจะเป็นเพราะเพิ่งเริ่มต้ นไม่ถึงปี ยังต้องพึ่งพาคุณ Hong เยอะ แต่เห็นว่าช่วงนี้ก็มี Agency เจ้าอื่นเข้ามาคุยเพิ่มเติม  ก็อาจจะทำให้ลดค่าคอมลงไปได ้
………………………. …………………….. …………..

** ลูกค้า IVF เยอะแค่ไหน **
.
เริ่มต้นแรก ๆ ได้มาสัก 6-7 คู่ต่อเดือน แล้วเพิ่มเป็น 10 คู่
Q3 ประมาณ 20 คู่ต่อเดือน
ตุลาคม ประมาณ 20 คู่ต่อเดือน
พฤศจิกายน ครึ่งเดือน มาแล้ว 10 คู่
ธันวาคม เห็นว่าจะมาเป็นกรุ๊ปใหญ่จา กเมืองจีน มาดูโรงพยาบาลก่อน ถ้าโอเค ก็น่าจะทำ IVF เลย
.
ดูแบบนี้แล้ว อย่างน้อย ๆ ก็น่าจะได้ซัก 20 คู่ต่อเดือน
…………………….. …………………….. …………………

** อาจจะสงสัยกันว่า แล้วทำไมต้องมาที่ EKH **
..
คำตอบ คือ ศูนย์ทำเด็กหลอดแก้วในเมือง ไทยมีประมาณ 80 ศูนย์ ที่ดัง ๆ ก็ เจตนิน นวบุตร แต่ประเด็นคือ เอเจนซี่เป็นคนพามา เพราะฉะนั้นเค้าตัดสินใจตั้ งแต่ก่อนออกจากประเทศแล้วว่ าจะไปที่ไหน เหมือนเวลาเราไปทำศัลยกรรมท ี่เกาหลีก็น่าจะเลือกไว้แล้ วว่าไปที่ไหนดี กับอีกเรื่องคือ Success Rate ของ EKH สูงมาก คือ 63% มากกว่าค่าเฉลี่ยที่อยู่ราว  ๆ 40-50%
..
ถามต่อ คือ 80 ศูนย์ นี่เยอะมากนะ แล้วจะ over supply มั้ย?
.
คำตอบ คิดว่าไม่นะ เพราะคนจีนมีเป็นพันล้าน และมี 90 ล้านคู่ที่ประสบปัญหามีบุตร ยาก ทำในจีนได้ แต่รอนาน 16 เดือน ทำอเมริกาได้ แต่แพง ทำในไทยเลยเป็นอีกตัวเลือกน ึงที่มาทำแล้ว คุณภาพดี ราคาไม่แพง แถมได้เที่ยวอีกด้วย (EKH อยู่มหาชัย ก็ไปกินลม ชมทะเล ดูปลาโลมาได้)
………………………. …………………….. ……………..
.
** ตึกใหม่พระราม 9 เปิดเมื่อไหร่ **
.
กระทรวงมาตรวจไปแล้ววันที่ 14 พฤศจิกายน เดี๋ยวจะมาอีกรอบวันจันทร์ คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็คือเปิดเลยอาทิตย์หน้านี่ แหละ แต่เปิดชั้น 4 ที่เป็นห้องตรวจ OPD ก่อน ส่วนห้อง Lab ห้องปฏิบัติการ จะเปิดต้นปีหน้า แปลว่าคนจีนที่เดี๋ยวนี้ไปอ ยู่แถวรัชดา พระราม 9 เยอะก็จะมาตรวจได้ง่ายขึ้น capacity รับได้เดือนละ 100 เคส ฟังดูเหมือนเยอะ แต่แค่วันละ 3-4 คู่ เท่านั้นเอง อันนี้ต้องขึ้นกับฝีมือเอเจ นซี่ว่าจะเก่งแค่ไหน ในการพาคนไข้มา
…
** เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น **
..
คือ IVF บริหารโดยบริษัทย่อยในนาม EKI เดิมที EKH ถือ 77% ล่าสุดมาถือเพิ่ม 91% ส่วนคุณ Hong ถือ 3.75%
…………………….. …………………….. ………………….

** ปิดท้ายมาดูผลประกอบการย้อน หลังกัน **
.
ปี 2558 รายได้ 439 ล้านบาท กำไรสุทธิ 48 ล้านบาท (GPM 32.2%, NPM 11.1%)
ปี 2559 รายได้ 512ล้านบาท กำไรสุทธิ 75ล้านบาท (GPM 35.2%, NPM 14.7%)
ปี 2560 รายได้ 541 ล้านบาท กำไรสุทธิ 84 ล้านบาท (GPM 35.2%, NPM 15.5%)
.
9M60 รายได้ 403 ล้านบาท กำไรสุทธิ 62 ล้านบาท (GPM 35.1%, NPM 15.4%)
9M61 รายได้ 480 ล้านบาท กำไรสุทธิ 90 ล้านบาท (GPM 40%, NPM 18.7%)
..
รายได้และกำไรโตต่อเนื่อง แค่ 9 เดือน กำไรก็แซงทั้งปีของปี 2560 แล้ว แถมมาร์จิ้นก็เพิ่มขึ้นอย่า งมากอีกด้วย
.
สรุป คือ EKH แนวโน้มรายได้ดูเติบโตดีอยู ่ ติดตรงเรื่องค่าคอมที่ให้เอ เจนซี่นี่แหละที่เยอะไปหน่อ ย ถ้าเจรจาลดลงมาได้ และลูกค้าคนจีนเข้ามาต่อเนื ่องก็จะเป็นผลดีต่อ EKH ในระยะยาว
…
นี่ยังไม่ได้นับถึงเรื่องจะ เปิดตึกใหม่หลังสงกรานต์ปีห น้าที่จะช่วยรองรับคนไข้ที่ ตอนนี้ล้นทะลัก แต่ก็ต้องระวังเรื่องค่าเสื ่อม ถึงจะบอกว่า cover หมด เปิดแรก ๆ ก็อาจจะมีอยู่บ้าง แล้วไว้ค่อยติตตามกันครับ เดี๋ยวหลัง Oppday 20 พฤศจิกายน ถ้ามีอะไรคืบหน้า จะมาเล่าให้ฟังกันครับ