ECF ร่วงฟลอร์ 2 วันติด

เคยพูดถึงหุ้นตัวนี้ไปเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนั้นราคายังอยู่ 6 บาทกว่า ผ่านมาไม่ทันไรลงไปเกือบ 2 ฟลอร์ติด ๆ กัน ราคาลงไปต่ำสุดถึง 2.68 บาท สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากข่าวลือที่ว่าดีลร่วมกับ S-TREK ตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีล่ม แต่ล่าสุดผู้บริหารได้ออกมาปฏิเสธแล้ว ทำให้หุ้นดีดกลับขึ้นมายืนอยู่แถว ๆ 3 บาท

เวลาเห็นข่าวแบบนี้ก็อดไม่ได้ที่จะอยากรู้ว่า ใครซื้อใครขาย เจ้าของขายมั้ย ผู้ถือหุ้นใหญ่ขายมั้ย เคยได้ยินมานานแล้วว่า App StockRadars ดูได้ แต่ไม่เคยเข้าไปดูซักที วันนี้เลยเข้าไปลองเล่นดูหน่อย สิ่งน่าสนใจที่ผมเจอคือแบบนี้ครับ
.
** รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ **
.
Update ถึงแค่ 4 พ.ค. 2561 แปลว่า ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงไปแล้ว แต่สิ่งที่เห็นคือ รายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่นามสกุล “สุขสวัสดิ์” 4 คน ถ้าจะไม่ให้งง สายสัมพันธ์คือ
..
• คุณวัลลภ คือ พ่อ และคุณวราภรณ์ คือ แม่
• มีลูก 3 คน ลูกชายคนโตชื่อ ชาลี คนรองคือ คุณอารักษ์ และลูกสาวคนเล็กคือ คุณทิพวรรณ
• เรามักจะได้ยินชื่อคุณอารักษ์อยู่บ่อย ๆ เพราะเป็นกรรมการผู้จัดการ ดูแลเรื่องการบริหารต่าง ๆ ส่วนท่านอื่นก็นั่งเป็นกรรมการ
• ถ้าดูจากสัดส่วนการถือหุ้น 3 พี่น้องถือเท่ากัน 14.95% เมื่อก่อนคุณพ่อวัลลภถือเยอะแต่โอนให้ลูกสาวไป ส่วนคุณแม่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อ

** Insider Report (59-2) **
.
• หลังจากเกิดเรื่องดราม่า เราเห็นการซื้อหุ้นเพิ่มของครอบครัวในเดือนธันวาคม โดยคุณอารักษ์ซื้อไป 300,000 หุ้น ราคา 5-6 บาท คุณทิพวรรณซื้อไป 20,000 หุ้น 5.85 บาท และคุณแม่วราภรณ์ซื้อไป 300,000 หุ้น 5.75 บาท สิ่งที่กำลังจะบอกคือ ผู้บริหารซื้อหุ้นตลอดในเดือนนี้ แต่สุดท้ายหุ้นก็ลงแรงได้ บางทีมันไม่เกี่ยวกัน เราอย่าคิดว่าเจ้าของซื้อแล้วหุ้นจะต้องยืนได้หรือต้องขึ้น อีกอย่างจำนวนหุ้นทั้งหมดของ ECF มี 960 ล้านหุ้น เจ้าของซื้อหลักแสนหุ้นเท่านั้นเอง
.
• ถ้าเราลองไล่ดูย้อนหลังก็จะพบว่า คุณพ่อวัลลภมีการขายหุ้นออกไปเมื่อตอนกลางปีจำนวนหนึ่งหลักสิบล้านหุ้น ส่วนคุณแม่วราภรณ์แกขายไปตั้งแต่ปีที่แล้ว และเพิ่งกลับเข้ามาซื้อก็ช่วงกลางปีถึงปลายปีนี้
.
• ในกราฟของ StockRadars มีข้อดีอย่างนึงคือ เวลาผู้บริหารซื้อหรือขาย หรือวันงบออก เขาจะจุดไว้บนกราฟราคาทำให้เราเห็นภาพว่าทำรายการวันไหน ไปจิ้มดูก็จะมีชื่อขึ้นมาว่าใคร แล้วมีผลอะไรกับราคาบ้างหรือเปล่า อย่างล่าสุดผู้บริหารซื้อในวันที่หุ้นลงก็จะโชว์ให้เห็น

..
** Big Lot **

อันนี้ก็น่าสนใจ เพราะมีรายการแสดงไว้ว่ามีการทำ Big Lot กี่รายการ วันไหนบ้าง ราคาเท่าไหร่ อย่างในรูปถ้าจำกันได้ ก็จะมี Big Lot รวม ๆ กันหลายสิบล้านหุ้นตอนกลางปี ที่ราคา 7-8 บาท แต่ต้องบอกว่าอันนี้คือ Big Lot แบบเป็นทางการที่เขาแสดงให้เรารู้ ถ้าจะมี bigger lot หรือ small lot หลาย ๆ อัน หรือ เงินทอน lot อะไรแบบนี้ เราไม่รู้ว่ามีมั้ย แต่หุ้นพื้นฐานดีก็คงไม่มีเรื่องแบบนี้หรอกมั้ง

** Volume Analysis **
.
ถ้าใครเคยเล่น efin ก็จะคุ้นเคยกับ VA เอาไว้ดูย้อนหลังได้ว่า คนส่วนมากติดดอยกันที่ราคาไหน อย่างในรูปที่ผมเลือกมาตั้งแต่ 1 กรกฎาคม ถึงวันนี้ ก็จะเห็นว่า
.
• ดอยแรกอยู่ที่ 6.20 บาท ดอยที่อากาศดีกว่านั้นก็แถว ๆ 8 บาท
• ส่วนถ้าดูใกล้ ๆ ก็จะเห็นคนใจกล้ารับไปแถว ๆ 3 บาท กับซัก 2.80 บาท อยู่พอสมควร
….
ลองไปกด App เล่นกันดูครับ จะทำให้เราเห็นภาพอีกมุมนึงที่น่าสนใจและเอามาประกอบกับการดูงบการเงินที่ผมกำลังจะเล่าต่อไปให้อ่านกัน จะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
..
=============================

** ผลประกอบการของ ECF **
.
ปี 2558 รายได้รวม 1,358 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท (GPM 26.4%, NPM 5.5%)
ปี 2559 รายได้รวม 1,428 ล้านบาท กำไรสุทธิ 62 ล้านบาท (GPM 28.3%, NPM 4.4%)
ปี 2560 รายได้รวม 1,498 ล้านบาท กำไรสุทธิ 73 ล้านบาท (GPM 19.6%, NPM 4.9%)
..
9M60 รายได้รวม 1,082 ล้านบาท กำไรสุทธิ 41 ล้านบาท (GPM 29.6%, NPM 3.8%)
9M61 รายได้รวม 1,072 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21 ล้านบาท (GPM 30.8%, NPM 2.0%)
..
ในช่วงปี 2558-2560 รายได้โตแต่แบบเลขหลักเดียว ส่วนปีนี้รายได้ลดลงนิดหน่อย GPM ไม่แย่ เพิ่มขึ้นด้วย อาจจะเพราะขายเฟอร์นิเจอร์และหลัง ๆ ทำโรงไฟฟ้าเพิ่มขึ้น แต่กำไรสุทธินี่สิลดลงเรื่อย ๆ เพราะ SG&A บวมจากการลงทุนขยายกิจการโรงไฟฟ้าแต่รายได้ยังไม่เข้าเต็มที่
..
งบกระแสเงินสดเป็นอะไรที่ค่อนข้างน่ากังวลเพราะ CFO ติดลบมาตลอด เท่าที่เห็นคือไปจมกับสินค้าคงเหลือเยอะมาก เข้าใจว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ ล่าสุด CFO ติดลบ 150 ล้านบาท
.
ส่วน CFI ติดลบ 300 ล้านบาทเพราะลงทุนอยู่ และ CFF เป็นบวก 537 ล้านบาท เพราะไปเพิ่มทุนมา (PP และ Warrant) คือ กำลังขยายกิจการสร้างโรงไฟฟ้าอยู่ แต่รายได้ยังไม่เข้ามา
..
Cash Cycle 362 วัน ปีนึงเลย ไปจมกับสินค้าคงเหลือ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย
..
=========================
.
** Growth Story ของ ECF **
.
1) พลังงานทดแทน มีชีวมวลอยู่แล้วในประเทศ ตอนนี้ไปร่วมทุนทำ Solar ที่พม่า โครงการมินบู 220 MW แต่มีอัตราการรับซื้อไฟสูงสุด 170 MW โดย ECF ถือ 20% กดเครื่องคิดเลขออกมาได้ 34 MW ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่แบ่งโครงการเป็น 4 เฟส ๆ ละประมาณ 40-50 MW นั่นแปลว่า ECF จะรับรู้เข้ามาปีนี้ตามสัดส่วนก็น่าจะ 8 MW ที่เหลือก็ทยอยรับรู้จนกว่าจะครบทุกเฟส
.
2) IT คือ S-TREK ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า IT จะเข้าไปถือหุ้น 51% และบริษัทนี้มีรายได้ปีละ 5,000 ล้านบาท กำไรสุทธิเท่าไหร่ไมได้มีบอกไว้ แต่ให้เดาคงไม่เกิน 2% เหมือนอย่าง SYNEX หรือ SIS แปลว่ากำไรก็คงได้ 100 ล้านบาทไม่น่าเกินนี้ ถือครึ่งนึงก็คง 50 ล้านบาท

..
ผู้บริหารตั้งเป้าว่า สัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ 30% โรงไฟฟ้า 30% ไอที 30% และอื่น ๆ อีก 10% โดยอีก 5 ปี ข้างหน้าตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท แปลว่าจะโตจากวันนี้ 6-7 เท่าตัว

สรุป ECF ลงมา 2 ฟลอร์ อาจด้วยข่าวลือ แต่ P/E ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่ 50 เท่า ถ้าจะให้ราคาวิ่งขึ้นไปแบบแรง ๆ แปลว่า EPS ในอนาคตต้องเติบโตแบบก้าวกระโดด ซึ่งคงไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ แล้วโรงไฟฟ้ากับ IT ใช่มั้ย เรื่องนี้ต้องไปลองคำนวณกันต่อดูครับว่าหมากเกมนี้คุ้มค่าที่จะเสี่ยงมั้ย
.
Credit App StockRadars