ผมแอบตามดูอยู่ว่าหุ้น DOHOME จะทำ PE ได้เท่ากับ HMPRO ที่ 38 เท่าหรือเปล่า ถ้าคิดคร่าว ๆ คือ ราคา 10 บาท เข้าใจว่าบริษัทไม่ได้เหมือนกันซักทีเดียว แต่อยากเทียบให้ทุกคนเห็นภาพว่า P/E ของ DOHOME ควรจะไปเทียบเท่าหรือเกิน HMPRO เลยหรือไม่
.
เมื่อเช้านี้งบ Q2 ออกมาดูดีมาก กำไร +77% ราคาวิ่งไปไกลถึง 9.95 บาท ก่อนจะย่อลงมา
..
#เรื่องที่ดี คือ
.
1. ต้นทุนขายลดลง 242 ล้านบาท -6% ถือว่าลดลงเยอะมาก
2. เพิ่มสัดส่วนการขายและเพิ่มมาร์จิ้น House Brand ได้มากขึ้น ซึ่งถือว่าดีมาก เพราะเรารู้ว่า House Brand มี 14.5% และ มาร์จิ้นสูงถึง 31% (มากกว่าสินค้าปกติเท่าตัว)
3. ควบคุม SG&A ได้ดีมาก ลดไป 7% หรือ 33 ล้านบาท เขาบอกว่าปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานและปรับแผนการตลาดให้ดีขึ้น
..
#เรื่องที่ต้องระวัง คือ
.
1. รายได้ลดลง 170 ล้านบาท -3.6% หลัก ๆ คือ ร้านเดิมขายไม่ดี ได้ร้านใหม่มาช่วยไว้ โดยเฉพาะบางนาที่เพิ่งเปิดปีที่แล้ว พูดง่าย ๆ คือ เอายอดสาขาใหม่ ๆ มาโปะสาขาเก่า แปลว่าต้องเปิดร้านไปเรื่อย ๆ
.
2. GPM ของเหล็กรูปและเหล็กเส้นเพิ่มจาก 10% เป็น 12% เพราะมีการเปลี่ยนโยบายการกำหนดราคาเหล็กและนโยบายการบริหารจัดการสินค้าคงคลังสำหรับสินค้าประเภทเหล็กใน Q2’62
.
>> ตรงนี้ต้องไปถามบริษัทเพิ่มเติมกันดูครับว่าหมายความว่ายังไง คือ ซื้อเหล็กได้ถูกลง หรือเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการตั้งสำรองสินค้า หรือยังไงกันแน่ เพราะว่า DOHOME ขายเหล็กค่อนข้างเยอะ ถ้าเป็นวิธีการปกติ ที่ทำให้ได้ต้นทุนเหล็กถูกลง คือจะดีต่อกำไรแน่ ๆ แต่ถ้าเหมือน Q1 ที่กลับสำรองสินค้าล้าสมัย อันนั้นก็ไม่ดีในระยะยาว
.
3. ต้นทุนการเงิน 24-25% ของ EBIT ถือว่าค่อนข้างสูง เรียกได้ว่าทำกำไรได้เท่าไหร่ต้องหักออกไป 1 ใน 4 ถ้าลดดอกเบี้ยได้จะช่วยให้กำไรมาเยอะ
.

#สรุป
Dohome มีความน่าสนใจในแผนการเติบโตที่จะขยายสาขาเยอะมาก และเน้น House Brand ที่มาร์จิ้นสูง ซึ่งเป็นกลยุทธ์เดียวกับที่ HMPRO เคยใช้มาก่อน แต่ความน่ากังวล คือ สาขาเดิมยอดตกตลอด ได้เรื่องของการบริหารจัดการเข้ามาช่วยให้กำไรดีขึ้น ซึ่งไม่แน่ใจว่าสามารถทำได้ในระยะยาวมั้ย เช่น กลับสำรองสินค้า ปรับนโยบายการกำหนดราคาเหล็ก
.
ส่วนเรื่องดอกเบี้ยจะลดได้มั้ย ก็คงได้แค่ตอนเอาเงิน IPO ไปคืนหนี้ 3,000 ล้านบาท เพราะจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มอีกมากในการขยายสาขา น่าจะต้องกู้เพิ่ม หรือไม่ก็ต้องออก warrant หรือ เพิ่มทุน ออกมาในอนาคต
.
#DOHOME #วิตามินหุ้น