BIG CAMERA ยังไม่ฟื้น

BIG กำไรลดลงติดกันมา 5 ไตรมาส ล่าสุด Q4 ลดหนักมาก -47% ย้อนหลังไปดูงบรายปีเป็นแบบนี้
.
ปี 2558 รายได้รวม 4,767 ล้านบาท กำไรสุทธิ 459 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้รวม 5,663 ล้านบาท กำไรสุทธิ 846 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้รวม 6,043 ล้านบาท กำไรสุทธิ 774 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้รวม 5,786 ล้านบาท กำไรสุทธิ 549 ล้านบาท


รายได้เพิ่มมาตลอด เพิ่งจะมาลดปี 2561 ส่วนกำไรเริ่มลดลงตั้งแต่ปี 2560 แล้ว แปลว่าเริ่มมีสัญญาณที่ไม่ดีมาตั้งแต่ตอนนั้น ทีนี้ถ้าเรามาดูรายละเอียดงบล่าสุดก็มีจุดที่น่าหวั่นใจพอสมควร คือ
.
1) รายได้เพิ่ม (+3%) ต้นทุนเพิ่มมากกว่า (+6%) และ SG&A เพิ่มมากกว่าอีก (+9%) อันนี้เป็นรูปแบบที่อาการไม่ดีเลย คือ ถึงแม้จะขายของได้ แต่แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพราะต้องทำราคาและโฆษณา ทำให้สุดท้ายกำไรลดลงอยู่ดี โชคดีที่ BIG มีหนี้น้อย D/E แค่ 0.60 เท่า ไม่งั้นงบอาจจะแย่กว่านี้
..
2) GPM 23.2% เทียบกับปีก่อน 20.9% แต่ EBIT 11.9% vs. 15.9% คือ เหมือนจะดูดี แต่ใช้งบการตลาดเยอะเพื่อให้ได้ยอดขายมา กำไรเลยตก
.
3) Cash Cycle 103 วัน vs. 65 วัน หลัก ๆ ไปจมที่สต็อค โดยระยะเวลาขายสินค้า 171 วัน vs. 140 วัน แปลว่า อาจขายของไม่ออก ตกรุ่น สิ่งที่ตามมาคือ BIG สั่งของจาก supplier น้อยลง เงินสนับสนุนที่ได้จากแบรนด์ต่าง ๆ ก็ลดลง เพราะทำไม่ถึงเป้าที่กำหนด
.
4) นอกจากนี้แบรนด์ทำโปรตรงไปที่ลูกค้าเพื่อดันของให้ออก เล่าแบบนี้ครับ หลักการทั่วไป แบรนด์ต่าง ๆ จะมีงบ 2 ส่วนคือ
.
• Trade Promotion ให้กับร้านค้า เช่น ส่วนลดเมื่อซื้อเยอะ ให้ incentive trip เพื่อที่ว่าจะได้ยอดออเดอร์ หรือ shelf ในการสร้าง visibility ในร้าน หรือบางครั้ง BIG ก็จะไปลดราคาต่อ

• Consumer Promotion คือการทำโปรกับลูกค้า consumer โดยตรง เช่น ลดราคา ให้ของแถมของพรีเมี่ยม ให้แสตมป์
.
กรณีของ BIG คือ แบรนด์เริ่มให้ตรงกับ consumer เพิ่มขึ้น กำไรของ BIG ก็จะเริ่มลดลง
.
5) ปีที่แล้วเปิดสาขาเพิ่ม 28 แห่ง และไปร่วมทุนเปิดร้านที่เวียดนาม มีค่าใช้จ่ายแต่รายได้ยังไม่เข้า ตรงนี้ก็ต้องลุ้นว่า stage นี้เหมาะสมกับการเปิดสาขาเพิ่มมากแค่ไหน และการไปต่างประเทศจะทำได้ดีแค่ไหน คู่แข่งจะยอมให้ BIG เข้ามาแชร์ส่วนแบ่งมั้ย
..
ดูทรงแล้ว ยังไม่ค่อยฟื้นเท่าไหร่ แต่เรื่องที่ดีก็พอมีอยู่บ้าง คือ จ่ายปันผล 0.08 บาท หรือเกือบ 6% ก็ถือว่าเยอะพอสมควร แต่อยากให้เรามองการเติบโตในอนาคตควบคู่กันไปด้วย เพราะราคาหุ้นก็ร่วงระเนระนาดเยอะกว่าปันผลอีก ลองคิดดูว่าคนที่ซื้อปีที่แล้วราคาสูงสุด 3.28 บาท มาวันนี้เหลือ 1.39 บาท ได้ปันผลมา 8 สตางค์ ดูยังไงก็ไม่คุ้ม
.
อย่าติดกับดักหุ้น P/E ต่ำ ปันผลสูง ที่อนาคตไม่สดใส เพราะ P/E ต่ำเกิดจากราคาที่ลดลงตามผลประกอบการ ไม่ใช่ว่ากำไรดี และปันผลที่ดูเหมือนสูงก็อาจเป็นเพราะว่าราคาที่เป็นตัวหารมันลดลง หรือจ่ายตามนโยบายที่เคยทำมา เพื่อไม่ให้ราคามันตกต่ำลงไปอีก ไม่งั้นคุณอาจต้องร้องไห้อยากเอาปันผลไปคืนกันเลยทีเดียว