
หลายคนคงทราบกันแล้วว่า “อาร์แซน เวนเกอร์” ได้ประกาศอำลาทีมอาร์เซนอลท ี่เขาคุมทีมมาเกือบ 22 ปี ตั้งแต่เดือนตุลาคม 1996 และกำลังจะจากไปพร้อมความยิ่งใหญ่ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย FA Cup 7 สมัย และ Community Shields อีก 7 สมัย รวมทั้งหมดคว้าแชมป์ไป 17 รายการ
นอกเหนือไปจากความสามารถของ เวนเกอร์ที่เปลี่ยนแปลงทีมจ าก “Boring Arsenal” กลายมาเป็น “The Invincible Champ” หรือแชมป์ไร้พ่าย 49 นัด ในฤดูกาล 2003/ 2004 เวนเกอร์ มักจะถูกหลายคนพูดถึงในแง่ของนักบ ริหารการเงินที่ดีเยี่ยม โดยมักจะซื้อนักเตะราคาถูกม าปั้นและขายออกไปในราคาแพงห ลายเท่าตัว ไม่ว่าจะเป็น นิโคลา อเนลก้า, เดนนิส เบิร์กแค้มป์, เธียร์รี่ อองรี, โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ฯลฯ
.
หลายคนเชื่อว่าเพราะเวนเกอร ์เรียนจบปริญญาตรีวิศวกรรมศ าสตร์ และปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ ทำให้เขามีตรรกะในการวางแผน ละบริหารการเงินได้เป็นอย่า งดี
.
เรามาดูกันดีกว่าครับว่า อาร์เซนอล มีรายได้มากแค่ไหน (จบปีเดือนพฤษภาคมตามรอบปิด ฤดูกาลแข่ง)
.
ปี 2013 รายได้รวม 280 ล้านปอนด์ กำไรสุทธิ 5.8 ล้านปอนด์
ปี 2014 รายได้รวม 302 ล้านปอนด์ กำไรสุทธิ 7.2 ล้านปอนด์
ปี 2015 รายได้รวม 344 ล้านปอนด์ กำไรสุทธิ 14.8 ล้านปอนด์
ปี 2016 รายได้รวม 353 ล้านปอนด์ กำไรสุทธิ 1.6 ล้านปอนด์
ปี 2017 รายได้รวม 424 ล้านปอนด์ กำไรสุทธิ 35.3 ล้านปอนด์
.
เราจะเห็นได้ว่า ช่วงหลัง ๆ ถึงแม้ทีมจะไม่ได้แชมป์ แต่รายได้เพิ่มทุกปีและล่าส ุดก็ทะลุ 400 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 18,500 ล้านบาท โดยที่ กำไรอาจจะมีขึ้นลงบ้างในบาง ปี ตามการซื้อขายนักเตะและค่าเ หนื่อยที่เพิ่มขึ้น
.
สัดส่วนรายได้ แบ่งได้ตามนี้
.
47% รายได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดส ด
23% ค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขัน
21% ค่าสปอนเซอร์ทางการค้า
.
และอีกมุมที่น่าสนใจคือ ในแง่ของเงินสดที่อาร์เซนอล มีอยู่ในงบดุล ต้องบอกว่าเยอะมากคือ 180 ล้านปอนด์ หรือเกือบ 8,000 ล้านบาท เลยทีเดียว
.
=========================
.
คำถามที่ตามมาคือ เงินก็มี แล้วทำไมไม่ซื้อนักเตะเก่ง ๆ เข้ามา?
.
ถ้าเราไปดูรายชื่อผู้ถือหุ้ นใหญ่ก็จะพบคำตอบว่าทำไม
.
67% ถือหุ้นโดย KSE UK เจ้าของชื่อ Stan Kroenke
ผู้ชายคนนี้เป็นนักธุรกิจชา วอเมริกัน เป็นเจ้าของทีม Denver Nuggets (NBA), Los Angeles Rams (NFL), Colorado Avalanche (NHL), Colorado Rapids (Major League Soccer) คือ เป็นนักธุรกิจด้านการกีฬาเต ็มตัวว่างั้นเถอะ
.
30% ถือหุ้นโดย Red and White Securities ของนาย Alisher Usmanov มหาเศรษฐีชาวอุซเบกิสถาน แต่ไปทำธุรกิจที่รัสเซีย (สนิทกับวลาดิเมียร์ ปูติน) มีหลากหลายธุรกิจทั้งเหมือง เหล็ก โทรคมนาคม สื่อสาร รวมทั้งมีหุ้นในJD.com และ Xiaomi ด้วย
.
3% ที่เหลือเป็นกลุ่มแฟนคลับตั ๋วปีอาร์เซนอลกว่าพันคน ในนาม AST (Arsenal Supporters Trust)
.
ทั้ง 3 ฝ่าย ก็เหมือนจะไม่ได้ถูกกันเท่า ไหร่นัก เพราะว่าโครเอนเก้เองก็พยาย ามขอซื้อหุ้นจากอุซมานอฟอยู ่ตลอด เพื่อกุมอำนาจเบ็ดเสร็จในสโ มสร แต่ฝ่ายหลังยังไม่ยอมขาย ส่วน AST เองก็พยายามไปเรียกร้องให้เ กิดการเปลี่ยนแปลงของสโมสรใ น AGM อยู่ทุกปี ซึ่งถ้าใครเป็นสาวกกันเนอร์ คงเห็นข่าวเป็นระยะ ๆ ว่า AGM ค่อนข้างดุเดือดพอสมควร เพราะทีมบริหารเองก็ไม่ค่อย รับฟังเท่าไหร่
.
อย่างไรก็ตาม ผมขอชื่นชมแฟนอาร์เซนอล ที่หลายปีที่ผ่านมามีกระแส Wengerout ไม่ได้ขาด แต่สุดท้ายพอเจ้าตัวจะอำลาส โมสรไปจริง ๆ ทุกคนก็มีแต่เสียงชื่นชมเวน เกอร์หรือแอบใจหายกันก็เยอะ เพราะจริง ๆ แล้วผมเชื่อว่าไม่มีแฟน ๆ คนไหนเกลียดเวนเกอร์ แต่อยากเห็นสโมสรที่ตัวเองร ักเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทา งที่ดีขึ้นมากกว่า
.
ในฐานะแฟนลิเวอร์พูล ผมขออวยพรให้ทีมอาร์เซนอลโช คดีและเชื่อว่า “เวนเกอร์” จะไม่มีวันเดินอย่างเดียวดา ยแน่นอน