หลังจากที่สอนลูกเรื่องลงทุนไปสักพักนึง ผมก็เริ่มเปิดพอร์ตลงทุนให้ลูก โดยตั้งเป้าหมายผลตอบแทนปีละ 10-15% เป็นการลงทุนระยะยาว 20 ปี เพื่อว่าวันนึงที่เด็ก ๆ โตขึ้นจะได้พอมีเงินหลักล้านไปตั้งตัวได้ทำอะไรที่อยากทำได้ วันนี้เลยอยากแชร์ไอเดียให้อ่านกันครับ เผื่อว่าจะเอาไปประยุกต์ใช้กัน แต่ขออนุญาตไม่บอกชื่อหุ้น

หลักการลงทุน คือ ยึดแนวทางของ Warren Buffett ที่บอกว่า “Buy a wonderful company at a fair price” ซื้อหุ้นบริษัทที่ยอดเยี่ยมในราคายุติธรรม และก็จะ Sell wonderful company ถ้าราคาไม่เหมาะสม หรือพื้นฐานมีการเปลี่ยนแปลงเช่นกันนะครับ
..
1) เงินต้น 500,000 บาท เติมเงินปีละ 120,000 บาท (เพราะคิดเหมือนฝากเงินให้ลูกเดือนละ 10,000) รวม 20 ปี ก็คิดเป็นเงินทุน 2.9 ล้านบาท
.
2) เป้าหมายผลตอบแทน 10-15% ต่อปี ผ่านไป 20 ปี เงินก้อนนี้จะกลายเป็น 10-20 ล้านบาท
.
3) ลงทุนหุ้นไทย 10 ตัว ๆ ละ 50,000 บาท (แต่พอมาลงจริง ๆ ทำไม่ได้เป๊ะ ๆ เลยปรับนิดหน่อย เดี๋ยวเล่าให้ฟังครับ)
.
4) วิธีการคัดเลือกหุ้นหามาจาก 3 ทางด้วยกันคือ
.
• ทางที่ 1 Jitta Ranking หยิบ Top Rank 30 ตัวแรกมาดูก่อน เริ่มที่การตัดทิ้งหุ้นที่ไม่เข้าใจเช่น ปิโตรเคมี โรงกลั่น และหุ้น Commodity ทั้งหลาย เพราะมันผันผวนเกินไป แล้วเราก็เอามาประเมิน Valuation อีกทีว่าที่ระดับราคานี้มี margin of safety เท่าไหร่ จะทำให้เราได้ผลตอบแทนตามเป้าหมายมั้ย
.
• ทางที่ 2 มองภาพ Macro Economics คือ ภาพกว้างเศรษฐกิจของประเทศว่ามีทิศทางไปทางไหน ข้อมูลก็มาจากตัวเลข GDP ตัวเลขการส่งออก นักท่องเที่ยว เป็นต้น ยกตัวอย่างให้เห็นชัด เช่น เรารู้ว่ายานยนต์ดี เราเห็นยอดขายโตโยต้าโตเยอะ เราก็ไปหาว่าหุ้นตัวไหนขายของให้เจ้านี้ แล้วก็ไปแกะงบรายตัวต่อ
.
• ทางที่ 3 ข่าวสารทั่วไป ทั้งจาก Line, Facebook, หนังสือพิมพ์ ซึ่งผมเชื่อว่าทุกคนได้รับข้อมูลเหล่านี้กันมาทุกวันอยู่แล้ว เราก็อ่านไปเรื่อย ๆ ข่าวไหนสะดุดตา หรือเห็นใครพูดถึงบ่อย ๆ เราก็เข้าไปทำการบ้านต่อว่าดีจริงมั้ย กำไรจะมามั้ย
.
5) ประเมินมูลค่า ด้วยวิธีง่าย ๆ คือ ใช้ P/E ใช้ Dividend ครับ คือ พอเราได้หุ้นที่สนใจมา ดูแล้วว่าดี กำไรน่าจะเติบโต เราก็มาประมาณการรายได้ว่าจะโตเท่าไหร่ อัตรากำไรจะเป็นยังไง จะมี SG&A อะไรเพิ่มมั้ยหรือว่าใกล้เคียงเดิม เราก็จะคิด EPS ออกมาได้ เสร็จแล้วก็ประมาณ P/E โดยดูจากอดีตว่าเคยอยู่แถวไหน ดูจากคู่แข่งที่ใกล้เคียงกันว่าตลาดให้เท่าไหร่ ดูจากอุตสาหกรรมแต่ถ้าอันนี้เหวี่ยงมากก็ไม่เอาเพราะหลายบริษัทในกลุ่มเดียวกันก็มีความต่างกันเยอะไป เสร็จแล้วเราก็จะได้ราคาเหมาะสมออกมา ผมก็จะคิดแบบดีต่ำ ๆ ไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัย คือ EPS ไม่ได้ให้เวอร์ไป P/E ก็กลาง ๆ คือ ให้คิดว่าขนาดเราตีต่ำแล้วยังไม่แพงก็แปลว่าลงทุนได้

6) เริ่มซื้อหุ้นเมื่อคำนวณ MOS ได้ >20% เพราะเราตั้งเป้าไว้ 10-15% ขอย้ำว่า ถ้าเราเจอหุ้นดี แต่ราคามันไม่เหมาะสม ก็นั่งทับมือไว้ ห้ามซื้อ เพราะอาจติดดอยได้
.
7) ปรับพอร์ตโดยติดตามผลงานทุกไตรมาสเวลางบออก แล้วเอามา Valuation ใหม่ ถ้าโอเคยังดีอยู่ก็ถือต่อไป ถ้าดูว่ากำไรจะไม่โตแล้วหรือราคาขึ้นมาเยอะแล้วก็อาจพิจารณาขายออกไป เพราะฉะนั้นบางตัวอาจถือครึ่งปี บางตัวอาจถือ 2 ปี ก็ติดตามผลงานไปเรื่อยๆ ครับ
..
======================
.
** พอร์ตจริง VI รุ่นจิ๋ว **
.
ผมเริ่มลงทุนด้วยหลักการนี้เมื่องบ Q2’18 ออกก็ประมาณปลายเดือนกรกฎาคม ถึงตอนนี้ก็ประมาณเดือนนิด ๆ ลงทุนไป 6 ตัว ผลตอบแทนอยู่ที่ 6.59% มีเงินสดเหลืออยู่ 30,000 บาท อธิบายแบบนี้
.
1) ลงแค่ 6 ตัว เพราะหาหุ้นไม่ได้ หรือบางตัวดีแต่แพงไป เราก็เลยไปซื้อบางตัวแสนนึงแทน เพราะ MOS >40% มากกว่าที่เราตั้งเป้าหมายไว้ ก็ถือว่าลงเบิ้ลแทน ส่วนเงินสดก็เก็บไว้รอหุ้นที่สนใจให้ราคามันลงมาก่อน
.
2) หุ้น 2 ตัว อยู่ในกลุ่มยานยนต์ หุ้นอีก 2 ตัว อยู่ในกลุ่มสินเชื่อ 1 ตัวโรงพยาบาล อีกตัวทำหลายอย่างมีร้านขายของ จะทำ Logistics ด้วย
.
3) ยานยนต์อย่างทีทราบกันว่าดีก็เลยซื้อ แต่ผมก็จะเลือกที่เค้าไม่ได้ทำแต่รถยนต์อย่างเดียวเพื่อกระจายความเสี่ยงไปในตัว
.
4) สินเชื่อ ก็เพราะเห็นงบแบงค์เริ่มปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เลยไปดูว่าตัวไหนน่าสนใจ ตัวนึงที่ซื้อก็เกี่ยวกับปล่อยสินเชื่อรถเพราะมันโยงไปกับอุตสาหกรรมยานยนต์ อีกตัวก็มีทั้งบัตรทั้งสินเชื่อบุคคล
.
5) โรงพยาบาล อันนี้ได้มาจากเราเห็นคนจีนเข้ามาเยอะ และส่วนนึงมาทำ IVF หรือเด็กหลอดแก้ว พอดีฟัง Opp Day โรงพยาบาลนึงทำเรื่องนี้ กำไรโตระเบิด แต่ราคาทำ Low ก็เลยซื้อ
.
6) ตัวสุดท้าย ตัวนี้คิดว่ายาว ๆ น่าจะดี เพราะชอบผู้บริหาร ชอบการที่มีส่งสินค้า สร้างคลังใหม่ จะทำ B2B คือ วันนี้ภาพอาจไม่ชัดมาก แต่เราคิดว่าอนาคตน่าจะดีถ้าเค้าทำสำเร็จ และโชคดีมีวันนึงราคามัน on sale ถึงจุดที่เราตั้งใจซื้อพอดีก็เลยจัดไป
…
เอามาแชร์เป็นไอเดียนะครับ ต้องบอกว่าอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่ลองดูเผื่อเอาไปปรับกันได้ แล้วไว้ผมจะกลับมาเล่าให้ฟังอีกรอบหลังงบ Q3 ออก ว่าพอร์ต VI รุ่นจิ๋ว เป็นยังไง จะปรับเปลี่ยนมากน้อยแค่ไหน สิ่งที่อยากฝากคือ เริ่มลงทุนตั้งแต่วันนี้แล้วอีก 20 ปี มันจะออกดอกออกผลที่งดงามให้คนที่เรารักครับ
.