หรือว่า ICHI กำลังจะถึงทางตัน

“เริ่มใหม่ได้ ถ้าหัวใจไม่ยอมแพ้”
.
คำพูดที่คุณตันเขียนไว้ในหนังสือ ชีวิตไม่มีทางตัน และยังเอาไปติดไว้หน้าโรงงานอิชิตัน เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติว่า ชีวิตคนเราล้มได้ก็ต้องลุกได้

เพราะเค้าเองก็ล้มเหลวมานับไม่ถ้วน ตั้งแต่วันแรกที่ขายหนังสือพิมพ์ก็เจ๊ง ทำร้านเบเกอรี่ก็เจ๊ง ธุรกิจพรีเว้ดดิ้งก็ไม่ดีเท่าไหร่ หนักกว่านั้นคือโรงงานอิชิตัน ยังไม่ทันเสร็จ ก็เจอน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 แต่ต่อมาก็ได้ปลุกปั้นกระแสชาเขียวจนเอาหุ้นเข้าตลาดในปี 2557 แต่วันนี้เค้ากำลังเผชิญปัญหาใหญ่อีกครั้งเมื่อบริษัทรายงานขาดทุนในงบ Q2’2561
.
ปี 2558 ยอดขาย 6,339 ล้านบาท กำไรสุทธิ 812 ล้านบาท
ปี 2559 ยอดขาย 5,338 ล้านบาท กำไรสุทธิ 368 ล้านบาท
ปี 2560 ยอดขาย 5,687 ล้านบาท กำไรสุทธิ 315 ล้านบาท
Q1’2561 ยอดขาย 1,321 ล้านบาท กำไรสุทธิ 33 ล้านบาท
Q2’2561 ยอดขาย 1,333 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 30 ล้านบาท
..
รายได้หดตัวจากตลาดชาเขียวซบเซา หลังจากผ่านยุคบูมสุดขีดสมัยแจกบ้าน แจกรถ แจกมือถือ มิน้ำซ้ำยังมีเรื่องของภาษีน้ำตาลเข้ามากดดันกำไรเพิ่มเติม จนในที่สุดก็พบกับการขาดทุน
..
ผมมีโอกาสได้ดู อ.ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย สัมภาษณ์คุณตันเมื่อวันก่อนในรายการ Talk Together .
https://www.facebook.com/talktogethermrn/videos/1113751872108069/
..
อ.ธันยวัชร์ ถามตรงมาก และคุณตันก็ตอบตรงเช่นกัน ดูจบไป 1 ชั่วโมงทำให้รับรู้ได้เลยว่า
.
1) คุณตันดูเหนื่อยและถอดใจพอสมควรกับตลาดในประเทศ
.
ตั้งแต่เริ่มคลิป คุณตันยอมรับว่าตลาดชาเขียวไม่ดี ตลาดน้ำผลไม้ไม่ดี คืออะไรที่เป็นแมสขายยากในเศรษฐกิจแบบนี้ และโปรโมชั่นที่เคยได้ผลในอดีตก็ดูเหมือนจะเริ่มใช้ไม่ได้ผล ถ้าจะดีก็ต้องไปเน้นสินค้าพรีเมียมแทน และนี่คงเป็นเหตุผลที่ออกสินค้าใหม่คือ ชาเขียว Shizuoka ขวดละ 30 บาท ที่ถ้าไม่อ่านดี ๆ จะไม่รู้เลยว่าเป็นของอิชิตัน เพราะหาโลโก้แบรนด์ไม่เจอ
.
2) ตลาดอินโดนีเซียก็ดูท่าจะไม่ไหว
.
การขยายตลาดไปต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกวันนี้อินโดก็ยังขาดทุนอยู่ และมีบทเรียนหลายอย่าง อาทิเช่น
• คุณตันเป็น Celeb ที่เมืองไทย ใช้ตัวเองเป็นพรีเซ็นเตอร์มาโดยตลอด หลายคนกินอิชิตันเพราะรู้จักในตัวคุณตัน แต่พอไปอินโดมันไม่ใช่ ไม่ได้มีใครรู้จัก
• มีรายใหญ่อยู่แล้ว 3 เจ้า รับน้องด้วยการดัมพ์ราคายอมขายขาดทุนในสินค้าบางตัวเพื่อสกัดกั้นคู่แข่งไม่ให้เกิด
• ความชอบในรสชาติสินค้าไม่เหมือนกัน คนที่นั่นกินชาเขียวแบบต้องมีกลิ่นหอม ๆ ทำให้ต้องปรับสูตร และสินค้าที่ขายดีแทนกลับกลายมาเป็นชานมไทย (Thai Milk Tea)
• สภาพภูมิประเทศเป็นเกาะ กระจายสินค้าไม่ทั่วถึง ยิงหนังโฆษณาไปคนเห็น แต่พอไปร้านสินค้าไม่มีขาย ที่สำคัญร้านค้าส่วนใหญ่ไม่ได้มีตู้แช่ใหญ่ ๆ หลาย ๆ ตู้ บางร้านเป็นตู้โค้กที่เอาชาเขียวไปใส่ด้วย หรือบางร้านใช้กล่องโฟมเอาชาเขียวไปแช่เย็นได้ก็ไม่กี่ขวด
.
>> คุณตันบอกว่าจะโฟกัสเฉพาะบางพื้นที่ที่สำคัญพอ คือ มาเน้นเป็น Niche market แทน และที่สำคัญจะลดการใช้เงินลงเพราะว่าต้องเอามาช่วยตลาดในไทยก่อน
.
3) ยอมรับความผิดพลาด และพร้อมแก้ไข
.
คุณตันเองยอมรับว่าตัวเองเป็นคนยุคเก่า อาจไม่ทันคนยุคใหม่ว่ามีความคิดความอ่านยังไง ปรับตัวตามดิจิตอลไม่ทัน ก็ต้องหาเด็กใหม่ ๆ เข้ามาทำงานด้วย และก็เข้าใจด้วยว่าเด็กใหม่ๆ มักอยู่กับบริษัทไม่นาน พอไม่ได้เรียนรู้อะไรแล้วก็จากไป เพราะฉะนั้นเค้าก็โอเคที่จะรับคนที่พร้อมทำงานได้ดีเลยแล้วจะไปที่อื่นในอีกไม่กี่ปีก็โอเค รับได้
.
4) ไม่ยึดติดกับความสำเร็จในอดีต
.
คุณตันบอกว่าแบรนด์อิชิตันไปขายอะไรก็ได้ ไปที่ไหนก็ได้ที่มีเงิน ไม่ได้ยึดติดกับชาเขียวอย่างเดียว ถ้ามันไม่เวิร์คก็ต้องไปหาอย่างอื่น มุมนึงคือดีที่ไม่ยึดติดพร้อมปรับตัวไปที่อื่นที่ดูมีโอกาสมากว่า แต่ในอีกมุมนึงก็เห็นชัดว่า คุณตันเองก็ไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี จะไปขายอะไรดี ยังคิดไม่ออก
.
สุดท้ายตอนจบคลิป คุณตันก็พูดตรง ๆ ว่า ต้องการกำลังใจจากทุกคน ฝากช่วยอุดหนุนด้วย ทำให้เห็นชัดว่าสถานการณ์ดูเหนื่อยจริง ๆ และมองไปก็ยังเห็นไม่ค่อยชัดว่าจะกลับมาอย่างไร แต่ยังไงก็ตาม คุณตันก็ยังทิ้งท้ายว่าอย่าท้อ ชีวิตเรา “เริ่มใหม่ได้ ถ้าหัวใจไม่ยอมแพ้”
..
แต่สำหรับนักลงทุนผู้ติดอยู่บนยอดชาต้นนี้ ลองพิจารณาให้ถี่ถ้วน คุณจะยอมแพ้ก็ได้นะ แล้วกำเงินไปเริ่มต้นใหม่กับหุ้นตัวอื่นที่ดูมีอนาคตสดใสกว่านี้ หรือถ้าคุณเชื่อมั่นว่าเดี๋ยวคุณตันก็หาทางกลับมาได้ อันนี้ก็ลองจิบชาแล้วไตร่ตรองกันดูครับ