หลายคนคงเห็นข่าวกันบ้างแล้วว่า GDP Q1 ดี โต 4.8% ขยายตัวมากที่สุดในรอบ 20 ไตรมาส ถ้าเทียบกับปี 59 โต 3.3% และปี 60 โต 3.9%
.
ทีนี้เรามาลงรายละเอียดกันแบบง่าย ๆ กันครับว่า GDP โตมาจากอะไร แล้วเราจะนำไปใช้ลงทุนอย่างไรกันได้บ้าง
ทบทวนกันก่อนว่า GDP ย่อมาจาก Gross Domestic Product หรือ “ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ” เอาไว้ดูว่าใน 1 ปี ประเทศไทยผลิตสินค้าและบริการออกมามีมูลค่าเท่าไหร่ แล้วก็จัดเป็น 5 กลุ่ม คือ การบริโภค การลงทุนเอกชน การใช้จ่ายและลงทุนภาครัฐ การส่งออก การนำเข้า
.
แล้วก็จับมาบวกลบกันเป็นสมการ C+I+G+X-M ได้ค่า GDP ออกมาเอาไปเปรียบเทียบเป็นการเติบโต ซึ่งคิดเป็นมูลค่าได้ 16.4 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นรายได้ต่อหัว 242,622 บาทต่อคนต่อปี แปลง่าย ๆ ว่า ได้เงินเดือนคนละ 20,218 บาท (แต่นี่คือค่าเฉลี่ยครับ เพราะบ้านเรารวยกระจุก จนกระจาย คือ คนรวยน้อย แต่จนเยอะ การกระจายรายได้ไม่ดี)
..
ทีนี้เรามาดูเครื่องจักรกันทีละตัวครับว่าตัวไหนแรงไม่แรง
.
** Consumption +3.6% **
.
• การบริโภคดีขึ้นเป็นลำดับจากปี 59 ที่ 3% ปี 60 ที่ 3.2% และมา Q1’61 ที่ 3.6%
• ซื้อรถยนต์ส่วนบุคคลกันเยอะครับ +14.8% >> จากรถคันแรกครบ 5 ปี ก็เริ่มทยอยเปลี่ยนรถกัน
• โรงแรมและภัตตาคาร +9.8% >> อานิสงค์จากการท่องเที่ยว
• ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจ 66.7% สูงสุดในรอบ 12 ไตรมาส
.
..
** Investment +3.1% **
.
• เอกชนเริ่มลงทุนเพิ่มขึ้นจากปี 59 ที่ 0.5% ปี 60 ที่ 1.7% และมา Q1’61 ที่ 3.1%
• ลงทุนในเครื่องจักรและการก่อสร้างเพิ่มขึ้น หลัก ๆ คือ สร้างที่อยู่อาศัยและโรงงาน
• อัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ 72.4% (เพิ่มจากปี 59 ที่ 65.3% และปี 60 ที่ 67.1%) ขยายตัวในอุตสาหกรรมยานยนต์ ปิโตรเลียม น้ำมันและไขมันจากพืชและสัตว์ (อุตฯที่ลดคือ ยาสูบและการกลั่นสุรา)
• มูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุน (BOI) เพิ่มขึ้นต่อเนื่องโดยเฉพาะเขต EEC
.
..
** Government +4% **
.
• การลงทุนภาครัฐค่อนข้างสวิง ปี 59 โต 9.5% ปี 60 ติดลบ 1.2% และ Q1 +4%
• เติบโตจากรัฐวิสาหกิจเป็นหลัก แต่ในส่วนของรัฐบาลโดยตรงยังติดลบ ปัญหาเดิมเลยคือ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ ที่ทำให้การเบิกจ่ายเงินช้า เพราะอาจยังไม่เข้าใจระบบว่าต้องทำยังไง
.
..
** Export +9.9% และ Import +16.3% **
.
• ส่งออกถ้าคิดเป็น USD โต 9.9% หรือถ้าคิดเป็นบาทก็ยังโต 4.7% ทั้ง ๆ ที่บาทแข็งมาก
• สินค้าส่งออกที่โตคือ รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ เคมีภัณฑ์ ข้าว มันสำปะหลัง
• สินค้าส่งออกที่โตลดลงคือ ยางพารา น้ำตาล
• สิ่งที่น่าสนใจคือ ข้าวเปลือกและข้าวโพดเลี้ยงสัตว์โตได้ดีทั้งปริมาณและราคา ขณะที่ยางพาราและปาล์มน้ำมัน ผลิตได้เพิ่มแต่ราคาลดลง ส่วนมันสำปะหลัง ผลิตได้น้อยแต่ราคาเพิ่ม
• ดัชนีรายได้เกษตรกรลดลง 4.8% ลงที่ภาคใต้เลย เพราะราคายางกับปาล์มลง แต่ภาคเหนือและอีสานเพิ่ม ก็คงเป็นเพราะปลูกข้าว ข้าวโพด ได้ดี
.
..
** ท่องเที่ยว +16.8% **
.
• รายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ +19% เพราะมีคนมาเที่ยวไทย 10.6 ล้านคนใน Q1 (+15.4%) จากจีน รัสเซีย อินเดีย เยอรมัน เกาหลีใต้
.
• รายรับจากนักท่องเที่ยวชาวไทย +12.2% มีการเข้าพัก 77% เพิ่มจาก Q1’60 ที่อยู่ 73.3%
..
=====================
.
** ความเสี่ยงที่ต้องระวัง **
.
1) ค่าเงินบาทแข็งกระทบการส่งออก ใน Q1 แข็งจริง เราก็ยังโตได้ แต่ก็เป็นเพราะเศรษฐกิจโลกดีด้วย แล้วในช่วง Q2 เราก็เริ่มเห็นการอ่อนค่าชองเงินบาทอยู่บ้างแล้ว
.
2) Trade War อันนี้เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการควบคุมและคาดเดา ก็ต้องติดตามผลกระทบว่าจะมาโดนตัวไหนบ้าง เช่น เหล็ก ถั่วเหลือง เป็นต้น
.
3) ภาระหนี้ต่อรายได้ครัวเรือนยังสูงอยู่ อาจทำให้การบริโภคไม่ได้เต็มที่และทั่วถึงโดยเฉพาะคนในภาคใต้ที่ยางกับปาล์มยังดูไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่
..
สรุป GDP Q1’61 ดูดีกว่าที่คาดพอสมควร เพราะไม่ใช่แค่ส่งออกและท่องเที่ยวที่เป็นพระเอก แต่ส่งผลตามมาที่การซื้อรถยนต์ การก่อสร้างที่อยู่และโรงงาน ตลอดจนการเพิ่ม Capacity ผลิตเยอะขึ้น การขอ BOI ในเขต EEC เพิ่มขึ้น แต่ในทางตรงกันข้าม สินค้าเกษตรไม่ได้ดีทุกตัว หนี้ครัวเรือนก็ยังมี ซึ่งสะท้อนในเรื่องการกระจายรายได้ว่าไม่ดี การบริโภคสินค้าทั่วไปก็อาจยังไม่ฟื้นมาก รวมไปถึงภาครัฐยังเบิกจ่ายเงินช้าอยู่
.
..
** Implication for Investor **
.
1) ท่องเที่ยวดีมากต่อเนื่อง โรงแรม ภัตตาคารมา >> หุ้นสนามบิน หุ้นโรงแรม ร้านอาหาร หุ้นสินค้าที่คนจีนชอบซื้อ สาหร่าย เครื่องสำอาง สปา
.
2) ส่งออกดี ยานยนต์ ชิ้นส่วนรถโดยเฉพาะรถนั่ง >> ไปดูหุ้นกลุ่มยานยนต์เลยครับ บวกทุกตัว แนวโน้มดีก็จะบวกต่อไป
.
3) EEC รอบนี้ดูชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ >> หุ้นแถบตะวันออก เช่น นิคม ก่อสร้าง สายไฟ สาธารณูปโภค โรงพยาบาล ก็น่าจะดีหมดนะ
.
4) อุตสาหกรรมการผลิต โรงงาน ก่อสร้างก็ดูเหมือนจะเริ่มดีนะ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับเรื่องพวกนี้อาจจะดีตามมาได้
.
5) ข้าวเปลือก ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ดูดีมีใครขายบ้างมั้ย แต่ในมุมกลับหุ้นที่ขายหมู ไก่ เป็ด ที่กินข้าวโพดก็อาจมีต้นทุนเพิ่มขึ้น
.
6) ยาง น้ำตาล ปาล์มน้ำมัน ดูไม่ค่อยดี หุ้นพวกนี้ต้องระวัง และกระทบต่อรายได้ของคนใต้ สินค้าใด เครื่องดื่มใด โรงพยาบาลใด อยู่ภาคใต้ต้องเฝ้าระวัง
..
ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ GDP อยากให้เข้าไปอ่านรายงานของสภาพัฒน์
http://www.nesdb.go.th/main.php?filename=QGDP_report