สรุป 10 ข้อคิด ที่ได้พบเจอทั้งการลงทุน ครอบครัว และชีวิต
เป็นบันทึกเตือนใจ และเผื่อว่าจะมีประโยชน์กันบ้างนะครับ
..
1. จัดลำดับสิ่งสำคัญในชีวิต แล้วทำตามนั้นให้ได้
.
ครอบครัว ลูก แฟน เงิน งาน เที่ยว อาหาร สุขภาพ ทุกอย่างสำคัญหมด แต่เราทำมันให้ดีได้ไม่หมดทุกอย่างหรอก เชื่อสิ ชีวิตมันคือการเลือก คือการ trade off ถ้าเราลดเวลากินของอร่อยๆ 1 วัน มาวิ่ง 1 วัน สุขภาพจะดีขึ้น ถ้าเราลดเวลาเพื่อการลงทุน 1 ชั่วโมง มาเล่นกับลูก 1 ชั่วโมง ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะดีขึ้น
.
หัวใจของเรื่องนี้คือ อะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิตที่เราต้องการ เราไม่ได้ต้องการคำตอบที่ดูดี เราไม่ได้เอาไปตอบให้ใครฟัง สำหรับผม “ครอบครัว” ต้องมาก่อน ผมสามารถปิด streaming ทั้งวัน เพื่อเล่นกับลูกได้ แม้ว่าผมจะพลาดโอกาสทำกำไรก้อนโต ผมลาออกจากงานประจำมาลงทุนเต็มตัวและมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น รายได้ปีนึงหายไปก็เยอะอยู่ ใครก็มองว่าน่าเสียดาย แต่ผมก็คิดว่ามันคุ้มนะ
..
2. จำกัดเวลาให้กับความบันเทิง
.
Facebook, Youtube, Line ไถไปไถมา ก็หมดเวลาไปเป็นชั่วโมง แทนที่เราตั้งใจเอาเวลาไปอ่านหนังสือ วางแผนการลงทุน ผมเลือกที่จะให้เวลาความบันเทิงวันละ 1-2 ชั่วโมง เป็นการพักผ่อน อยากดูอะไรก็ดูไป อยากเล่นอะไรก็เล่นไป เพลินๆ แต่พอจบแล้วก็ต้องกลับมาตั้งใจทำงานต่อให้ได้
.
มีคนบอกว่าให้ลบแอพพวกนี้ออกจากมือถือเลย เปิดแค่ในคอมก็พอ เพราะถ้าไม่ได้เห็นก็ไม่ได้เล่น แต่ผมยังต้องติดต่องานและครอบครัวผ่านแอพเหล่านี้อยู่ เลยไม่ได้ลบ แต่เลือกที่จะจำกัดเวลา และเล่นไม่กี่แอพแทน
.
3. ถ้าไม่ฉลาดก็ต้องขยัน ทำทุกวันเดี๋ยวมันก็เก่งเอง
.
ผมไม่ใช่คนหัวไว ไม่ใช่คนฉลาด แต่ข้อดีที่บอกตัวเองคือ เราเป็นคนขยัน ตอนเรียนหนังสือ เพื่อนอ่านรอบเดียว แต่เราอ่าน 3 รอบ สอบออกมาคะแนนเท่ากัน พอมาลงทุนก็เช่นกัน เราไม่ได้มีแต้มต่ออะไร เราไม่ได้เก่งกว่าใคร แค่ตอนเขาหลับ เราตื่น ตอนเขาตื่น เราก็ยังตื่นอยู่ ผมยึดคติที่ว่า “ลำบากตอนนี้ หลับสบายวันหน้า” ยอมอดทนลำบากหน่อย อีก 5 ปี 10 ปี เราสบาย อยากทำอะไร ไปไหน ตื่นกี่โมงก็ทำได้
.
4. คนสำเร็จเหนื่อยกันทุกคน เขาแค่ไม่ได้บอกเรา
.
คนที่ประสบความสำเร็จเท่าที่ผมรู้จักหรืออ่านประวัติชีวิตของแต่ละคน ส่วนมากเหนื่อยยาก ลำบากกันมาทั้งนั้น แผลเหวอะเต็มหลังกันทั้งสิ้น หรือคนที่พอร์ตร้อยล้านพันล้าน ผมก็ยังเห็นเค้าหาความรู้ใส่ตัวกันทุกวัน คือถ้าคนที่เก่งกว่าเราเค้ายังพยายามขนาดนี้ ถ้าเราอยากจะเป็นแบบเค้า ก็คงต้องพยายามเหมือนกัน โอเคมันอาจจะมีคนที่บ้านรวยอยู่แล้ว เก่งอยู่แล้ว หรือมี inside แต่เราไม่ใช่เค้าไง ก็ช่วยไม่ได้ ก็ต้องทำแบบบ้านๆ ลุยๆ แบบนี้ไป
.
5. เงิน ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต แต่มันทำให้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการได้
.
บางคนอาจจะมองว่า จะหาเงินไปทำไมเยอะแยะ สุดท้ายตายไปก็เอาไปไม่ได้ แต่ผมกลับมองว่า เงินมันจำเป็นนะ เราอาจไม่ได้ต้องการมีเป็นพันๆล้าน แต่เรามีตัวเลขในใจจำนวนหนึ่งที่คิดแล้วว่า ส่งลูกเรียนจบ ตั้งตัวได้ มีเงินค่ารักษาพยาบาล มีเงินกินเที่ยวในแบบที่ต้องการ ไม่ต้องกังวล เท่านั้นพอ
..
เมื่อหลายปีมาแล้ว ผมเคยมีช่วงที่ต้องใช้เงินเดือนชนเดือน หรือบางทีอยากซื้อของอะไร แล้วมันซื้อไม่ได้ตามต้องการ ต้องลดคุณภาพลงมาตามฐานะที่เป็น ชีวิตมันก็เศร้านะ เพราะฉะนั้น มีเงินมันก็ดีกว่าไม่มี แต่จะต้องมีเยอะหรือน้อย ก็แล้วแต่ชีวิตของแต่ละคนว่าอยากให้มันออกมาแบบไหน
.
6. เป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน แต่ระหว่างทางก็สำคัญ
.
ผมมีภาพที่ชัดเจนว่า แต่ละเดือนครอบครัวเราต้องใช้เงินเท่าไหร่ คูณจำนวนปีที่เราต้องใช้ ได้ออกมาเป็นเงินหนึ่งจำนวน แล้วก็ซอยย่อยลงมาว่า ใน 1 ปี เราต้องหาเงินเท่าไหร่ พอร์ตเราต้องโตขนาดไหน แล้วก็ทำไปตามแผน
.
แต่เอาจริงๆ มันก็ทำไม่ได้ตามแผนทุกปีหรอก แล้วผมเคยหมกมุ่นมากๆ กับเรื่องลงทุน จนลืมมองไปว่า คนรอบตัวเค้าไม่ได้ต้องการขนาดนั้น เราก็จะเพลาๆหน่อย รวยช้าหน่อย เที่ยวบ่อยหน่อย ซื้อของเล่นเยอะหน่อย ก็ดูจะมีความสุขมากกว่า
.
..
7. ไม่ต้องเต็มร้อยกับทุกวัน เหนื่อยนักพักบ้างก็ได้
.
ผมไม่ใช่คน productive ผมเป็นไม่ค่อยมีสมาธิ แต่ถ้าถึงเวลาที่ตั้งสมาธิได้ ก็จะนั่งทำงานอยู่แบบนั้นได้เป็นสิบชั่วโมง แต่พอหลุดก็คือหลุดไปเลย ต้องไปตั้งต้นกันใหม่ แล้วก็เคยมีบางวันที่เหนื่อยๆ อยากนั่งเล่น นอนเล่น แบบขี้เกียจๆ ทั้งวัน แต่ผมก็จะบอกตัวเองว่า ไม่ไหวก็พักได้ แต่แค่ว่าถ้ามีงานอะไรรับปากใครไว้ต้องส่ง ก็เคลียร์ให้เสร็จก่อน หรือตั้งใจว่าต้องโพสต์ลงเพจทุกวัน ต้องอ่านหนังสือทุกวัน ก็ไปทำก่อนนิดนึง แล้วค่อยอนุญาตให้ขี้เกียจได้
.
8. ผิดได้ไม่ว่า แต่อย่าผิดท่าเดิมเกิน 3 ครั้ง
.
ผมพูดเรื่องนี้บ่อย โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน คือ แรกๆ เราไม่รู้หรอกว่า ไม่คัทลอสจะเสียหายแค่ไหน ซื้อหุ้นที่แพงๆ ติดดอยเป็นไง เล่นหุ้น Turn Around แล้วมันไม่เทิร์นเจ็บหนักแค่ไหน คือ เราต้องลองขาดทุนให้ครบทุกท่า แต่ว่าแต่ละท่า อย่าผิดเกิน 3 ครั้ง เพราะ
.
• ครั้งแรก ผิดเพราะไม่รู้
• ครั้งที่สอง ผิดเพราะไม่ชัวร์ว่าไม่รู้จริงๆ
• ครั้งที่สาม ขอคอนเฟิร์มอีกรอบว่ามันผิดจริงๆ นะ
..
ผมให้โอกาสตัวเองเท่านี้พอนะ แล้วขยับไปผิดท่าอื่นได้ไม่ว่าอะไร สุดท้ายก็จะเก่งเอง แต่ขอเตือนไว้อย่างนึงว่า ถ้าเป็นเรื่องความสัมพันธ์ ผิดครั้งเดียว แล้วมีโอกาสได้แก้ไข ถือว่าโชคดี ถ้าผิดได้ถึง 3 ครั้ง คงไม่มีใครให้อภัย
.
9. ถูกได้ ต้องจดไว้ แต่อย่าหลงคิดว่าเราเก่ง
.
ตอนไหนเราทำถูก เราก็จดลงสมุดไว้ จำไว้ให้ขึ้นใจ แล้วก็ลองฝึกท่าเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา จนเชี่ยวชาญ ทีนี้เราก็จะทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง แต่ต้องไม่หลงตัวเองคิดว่าเราเก่ง เพราะถ้าเราประมาทเมื่อไหร่ เราอาจจะพลาดได้ บางทีโดนจับทางได้ หรือท่าเดียวกันใช้ไม่ได้กับหุ้นทุกตัว เราจะได้ไม่ขาดทุนง่ายๆ
.
และการที่เราไม่เคยคิดว่าเราเก่ง ทำให้เรารู้สึกว่าตัวเอง ตัวเล็ก ตลอดเวลา เวลาเจอคนเก่งๆ หรืออ่านบทความของคนอื่น มันทำให้เรารู้สึกว่า เราต้องพยายามอีกเยอะเลย วันนึงเราอยากเก่งแบบนี้บ้าง มันก็จะทำให้เราเก่งขึ้นได้อีกจริงๆ
.
และที่สำคัญผมไม่เคยคิดจะไปสร้างศัตรูกับใคร ไม่ไปเมนท์ด่าใคร เพราะมองว่าต่างคนต่างเก่งในแบบของตัวเองดีอยู่ละ ผูกมิตรกันไว้ดีกว่า ทำให้ผมไม่ค่อยโดนใครด่าและอยู่ได้แบบมีความสุข
.
10. หนังสือดีที่ไม่ได้อ่าน ผ่านไปก็ไม่มีประโยชน์
.
ซื้อหนังสือเยอะทุกปี ไม่ต่ำกว่าปีละ 40-50 เล่ม บางเล่มเปิดอ่านแล้วชอบ บางเล่นเห็นเค้าว่าดีเลยซื้อมา แต่อ่านจริงได้ซักครึ่งนึง ที่เหลือก็กองไว้ไม่ได้อ่าน ด้วยข้ออ้างที่ว่าไม่มีเวลา ถึงมันจะดีแค่ไหน ถ้าไม่ได้อ่าน ก็ไม่ได้อะไรอยู่ดี แต่ปีหน้าจะทำแบบนี้แทนคือ
..
• อ่านจบ 1 เล่ม ถึงจะมีสิทธิ์ได้ซื้อเล่มใหม่
• เล่มไหนเปิดอ่านแล้วไม่ชอบไม่สนุก ปิดเลย เลิกอ่านอย่าเสียเวลา
• อ่านจบให้สรุปสิ่งที่ได้ลงเพจทุกวันเสาร์
..
ผมหวังว่า ข้อคิดชีวิตผมจะพอมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยกับทุกคนนะครับ ถ้าปีนี้มีอะไรที่ผิดพลาดประการใด ผมต้องกราบขออภัยทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วย ปีหน้าสัญญาว่าจะนำข้อมูลดีๆ มาเป็นอาหารสมองให้กับทุกคนแบบเต็มอิ่มกันเลยทีเดียว ฝากติดตามกันอย่าหนีไปไหน กด Like กด Share ชวนเพื่อนมาเติมอาหารสมองกันเยอะๆ ด้วยครับ
..
ขอบคุณครับ
.
จิม
#วิตามินหุ้น #สรุปปี2019
.
Line@ https://line.me/R/ti/p/%40stock_vitamins
www.stockvitamins.co