
พูดชื่อ DIGI หลายคนไม่รู้จัก แต่บอก ABC หลายคนน่าจะร้องอ๋อ เพราะเป็นหุ้นในตำนานหนึ่งตัวที่เป็นเข็มทิศพลิกชีวิตทั้งสุขและเศร้ากันหลายคนเลยทีเดียว
เริ่มต้นจากขายถุงเท้าในชื่อบริษัท BNC ก่อนไปไม่ไหวปิดตัวลงไป เปลี่ยนเจ้าของเป็นคุณปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ และเปลี่ยนชื่อเป็น ABC หันมาทำธุรกิจอสังหาและ E-commerce (คุณปรเมษฐ์เคยทำธุรกิจอสังหาอยู่ที่เชียงใหม่มาก่อน) ล่าสุดใช้ชื่อ DIGI เพราะจะเน้นมาสู่สังคมยุคดิจิตอลเต็มตัว แต่รายได้จากดิจิตอล ยังแค่ 5% ของรายได้อยู่เลยนะ
.
อสังหาริมทรัพย์ มีโครงการบ้านสาทรเจ้าพระยา คอนโด ABOVE สุขุมวิท 39 โครงการ ABC World รามคำแหง 30
.
ส่วน E-Commerce ทำ shopping online โดยบริษัทไปคัดสรรสินค้าแล้วมาขายที่ website www.abcpoint.com รับชำระค่าสาธารณูปโภค และรับแลกคะแนนบัตรเครดิตจาก 5 ธนาคารพันธมิตร (KTC, BBL, KBANK, ICBC, TBANK) เอามาแลกซื้อของต่าง ๆ ในเว็บได้
.
** ผลประกอบการย้อนหลัง **
.
ปี 2557 รายได้ 60 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 52 ล้านบาท
ปี 2558 รายได้ 60 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 73 ล้านบาท
ปี 2559 รายได้ 56 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 108 ล้านบาท
ปี 2560 รายได้ 85 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 169 ล้านบาท
.
คือเรียกได้ว่าทำลายสถิติขาดทุนมาทุกปี และจริง ๆ แล้วขาดทุนตั้งแต่ขั้นต้นเลย (ปกติเราเคยได้ยินแต่กำไรขั้นต้นใช่มั้ย อันนี้คือขาดทุนตั้งแต่หักต้นทุนขายเลย) ถ้าเราไปดูในไส้ อันที่ขาดทุนคือ ตึก ABC World ที่ให้ออฟฟิศเช่า เพราะใช้ต้นทุนเยอะในการจัดการทั้งน้ำ ไฟ ค่าดูแล ต่าง ๆ แตน่าจะยังไม่คุ้มทุน
.
หุ้นตัวนี้มีสัญญาณเตือนหลายอย่างที่เราควรหรือไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ไม่ว่าจะเป็น
.
1) ขาดทุนทุกปี และมีขาดทุนสะสมต่อเนื่อง รวมถึง CFO ก็ติดลบมาตลอด แปลว่ากิจการทำกำไรไม่ได้มายาวนาน สภาพคล่องน่าจะมีปัญหา เงินอาจจะจมไปกับคอนโดและตึกออฟฟิศ
.
2) 85% ของสินทรัพย์คือ สินค้าคงคลัง ซึ่งคือคอนโดมิเนียม และตึก ABC World ถ้าตัดตรงนี้ไปจะเหลือแค่ 126 ล้านบาท และพอมาดูหนี้สิน 76% คือเงินกู้ระยะสั้น (ขอย้ำว่าหนี้สั้น) เป็นเงิน 431 ล้านบาท คือ ดูแบบนี้อาจมีปัญหาไม่มีเงินจ่ายหนี้ได้ในเร็ว ๆ นี้
.
3) Asset Turn Over Ratio อยู่ระหว่าง 0.06-0.12 เท่ามาหลายปี แปลว่า คอนโดหรือตึกที่ลงไป ไม้ได้สร้างรายได้เลยนะ
.
คนที่สนใจหุ้นตัวนี้ (ไม่สนใจอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า) คงต้องไปเช็คว่าตึก ABC World ยังเหลือพื้นที่ให้เช่าแค่ไหน รายได้จะเข้ามาเมื่อไหร่ แล้วที่สำคัญโครงการในอนาคตจะเป็นอย่างไร รวมทั้งจะขยับไปทำงานด้านดิจิตอลหรือ e-Commerce ได้อย่างที่บริษัทพูดไว้หรือเปล่า ถ้าคำตอบที่ได้มันไม่ชัดหรือหาแสงสว่างไม่ค่อยเจอก็ต้องพิจารณากันดูครับ