ลาก่อน … หุ้น Commodity

วันนี้อยากเล่าประสบการณ์ขาดทุนจากการลงทุนในหุ้นสินค้า Commodity (สินค้าโภคภัณฑ์) ตัวหนึ่ง นั่นก็คือ TVO เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ

เล่าให้ฟังแบบนี้ก่อน ผมเคยได้กำไรจากหุ้นที่ขายเป็ดและทำเครื่องจักรที่มีเหล็ก ด้วยเหตุผลที่ว่า
.
1) ธุรกิจมีการขยายตัว รายได้เติบโต โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ที่ดูทรงแล้วก็น่าจะมีโมเมนตัมต่อเนื่อง
.
2) มีการสต็อคสินค้าคงเหลือ ในช่วงที่ราคาวัตถุดิบต่ำ แปลว่าได้ประโยชน์ทางต้นทุน เวลาขายของได้จะเกิด Stock Gain
.
และผมก็เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้กับหุ้นอีกหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นยางพารา น้ำมัน สังกะสี ทำให้ผมจดเป็นสูตรสำเร็จไว้ใช้กับหุ้นตัวต่อไป และโอกาสก็มาถึงเมื่อปลายเดือนมีนาคม ระหว่างขับรถกลับบ้าน ผมกำลังหาว่าจะฟังอะไรดี ก็บังเอิญไปเจอ Opp Day ของ TVO เข้า นั่งฟังจนจบด้วยความตื่นเต้นว่า เฮ้ย นี่มันเข้าสูตรชัด ๆ
.
ขอเล่าสั้น ๆ เกี่ยวกับธุรกิจของ TVO ก่อนเพื่อไม่ให้งง
.
• รายได้หลัก 63% กากถั่วเหลือง 28% น้ำมันพืชถั่วเหลือง (เจ้าของแบรนด์องุ่น) 5% ส่งออก
• เป็นโรงงานสกัดน้ำมันถั่วเหลืองเบอร์ 1 ของประเทศและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
• กำลังการผลิต 6,000 ตันต่อวัน แต่ในประเทศมีถั่วเหลืองแค่ 50,000 ตันต่อปี แปลว่าไม่ถึง 10 วันก็ใช้หมด ทำให้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ และผู้ผลิตรายใหญ่ก็คือ บราซิล อเมริกา และอาร์เจนตินา ตามลำดับ
• กากถั่วเหลือง หลัก ๆ ก็เอาไปเป็นอาหารสัตว์พวก ไก่ หมู แนวโน้มส่งออกไก่ก็ดูเหมือนจะดี
• น้ำมันองุ่นก็เจ้าตลาดส่วนแบ่ง 62% จะมีปัญหาก็แค่น้ำมันปาล์มล้นตลาด ราคาถูกลงมาแย่งลูกค้าไป
..
============================
.
** ผลประกอบการย้อนหลังเป็นแบบนี้ **
.
ปี 2557 รายได้ 25,731 บาท กำไรสุทธิ 1,679 ล้านบาท (GPM 11.4% NPM 6.5%)
ปี 2558 รายได้ 26,657 บาท กำไรสุทธิ 1,902 ล้านบาท (GPM 11.7% NPM 7.1%)
ปี 2559 รายได้ 28,347 บาท กำไรสุทธิ 2,754 ล้านบาท (GPM 15.9% NPM 9.7%)
ปี 2560 รายได้ 24,805 บาท กำไรสุทธิ 1,326 ล้านบาท (GPM 10.6% NPM 5.3%)
Q1’61 รายได้ 6,510 บาท กำไรสุทธิ 558 ล้านบาท (GPM 14.2% NPM 8.6%)
..
รายได้ไม่ค่อยเติบโต แต่ถ้าสังเกตดี ๆ ปี 2559 กำไรเติบโตเยอะกว่าปกติ ซึ่งก็เป็นช่วงที่ราคาถั่วเหลืองปรับตัวขึ้นมา และพอมาดูงบ Q1’61 กำไรก็เริ่มดูดีอีกครั้ง แค่ Q เดียว ก็คิดเป็นกำไร 40% ของทั้งปีแล้ว ทำให้ผมเกิดความมโนขึ้นมาเองว่า ประวัติศาสตร์อาจซ้ำรอย เพราะ
.
1) ถั่วเหลืองเริ่มขาดแคลน อาร์เจนตินาเจอภัยแล้ง จากลานินญ่า เมสซี่ยิงจุดโทษไม่เข้า แต่ TVO สต็อคราคาถูกไว้เพียบ งบ Q1’61 ยังไงต้องดี (ผมยังคงเข้าเช็คสภาพอากาศของอาร์เจนตินาอยู่เรื่อย ๆ ปริมาณน้ำฝนก็ยังไม่เยอะอยู่ตลอด)
.
2) รายได้เหมือนจะแนวโน้มดีจาก ธุรกิจไก่ ที่น่าจะส่งออกได้เพิ่ม ถ้าดีก็ต้องกินถั่วเหลืองตาม
.
3) ปันผลประมาณ 8% ไม่น่าจะเจ็บตัวถ้าซื้อแล้วราคาตก
.
..

คิดได้ดังนั้น จะรออะไร กดเลยครับ 33.50 บาท ต่อมาราคาก็วิ่งขึ้นไปตามคาดจนถึง 35.50 บาท แต่ก็ไม่ได้ขายนะ จนงบ Q1’61 ออก กำไร +112% ตามคาด แต่ราคาก็ไม่ได้ขึ้นต่อเท่าไหร่ จนล่าสุด ราคาไหลลงมาเรื่อย ๆ หลุด 31, 30 เรื่อย ๆ จนผมเริ่มเอะใจในความผิดปกติเลยลองเข้าไปเช็คข้อมูล สิ่งที่พบคือ
.
1) ราคาถั่วเหลืองในเดือนมีนาคมคือพีคสุดแล้ว และถ้าดูเดือนมิถุนายนไหลลงเป็นน้ำ
.
2) มีบทวิเคราะห์ออกมาบอกว่าอาร์เจนตินาอาจจะไม่แล้งแล้วนะ (เฮ้ย อากาศมันจะเปลี่ยนไวขนาดนี้เลยหรอ) ปริมาณถั่วเหลืองเลยมากขึ้น กดดันให้ราคาลง
.
3) Trade War ระหว่างสหรัฐกับจีนที่เป็นผู้นำเข้าถั่วเหลืองอันดับ 1 ทำให้เกิดความกังวล ราคาเลยร่วง
.
4) ราคาหุ้นจริง ๆ มันขึ้นมาจากเดือนพฤศจิกายนที่อยู่แถว ๆ 26 บาทโวลุ่มพีคผ่านไปแล้ว ทำให้เราฉุกคิดว่า หรือเค้าจะเล่นกันไปแล้ว เราเข้ามาตอนงานเลี้ยงกำลังจะเลิกหรือเปล่า
.
5) สินค้าคงเหลือในงบ Q1’61 น้อยลงเยอะ แปลว่า Q2 เราอาจไม่ได้เห็น Stock Gain เยอะเท่าไหร่
..
นั่งคิดไปคิดมา ได้ข้อสรุปว่า จริง ๆ แล้วเราเองยังไม่เข้าใจเรื่องของถั่วเหลืองเท่าไหร่ มีแต่ความมโนไปเอง ตอนนี้ขาดทุนประมาณ 13% ไม่สบายใจ ตัดใจก่อนที่จะหมดตัวดีกว่า สรุปขายหมด ซึ่ง ณ จุดที่เราขายมันอาจจะ bottom ก็ได้นะ แต่เราไม่เข้าใจตัวธุรกิจดีพอไง ก็ต้องเลิกรา
.
========================
.
** นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า **
.
1) สูตรสำเร็จไม่มีอยู่จริง ไม่จำเป็นว่าเราเคยทำกำไรได้กับหุ้นตัวอื่น แล้วจะสามารถใช้วิธีการเดียวกันกับหุ้นได้ทุกตัว
.
2) หุ้น Commodity เป็นอะไรที่ถ้าไม่เข้าใจจริง ๆ ก็จะมีความเสี่ยงมาก ถึงแม้ว่าผมจะไปนั่งเช็คสภาพอากาศที่อาร์เจนตินา ไปส่องราคาไก่ แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าเราไม่รู้จริง เราต้องยอม อย่าฝีน ตัดแขนดีกว่าให้มันลามมาถึงหัวใจ
.
3) กำไรดี ราคาหุ้นไม่ขึ้น ก็เป็นไปได้ อย่างกรณีนี้มันอาจเกิดมาจากราคามันขึ้นมาตั้งแต่ปลายปีแล้ว แต่พอคนเริ่มเห็นแนวโน้มว่าในอนาคตมันอาจจะไม่ดีก็ได้ ก็เลยขายเอากำไรกันออกมา ส่วนเราก็เข้าไปรับซื้อต่อจากเค้าโดยที่ไม่รู้อะไรเลย
..
สุดท้าย สำคัญที่สุด ผมไม่เสียดายนะ ถ้าวันข้างหน้าหุ้นมันจะขึ้นไปมากกว่าที่ผมเคยซื้อ เพราะผมคิดว่ามันเป็นการเสี่ยงกับโชคชะตามากเกินไปกับการที่เราได้กำไรโดยที่เราไม่มีความรู้เรื่องนั้นจริง ๆ เพราะจะทำให้เรามั่นใจแบบผิด ๆ แล้ววันนึงเราก็อาจจะขาดทุนแบบหนัก ๆ ก็เป็นได้
.
TVO สอนให้ผมรู้ว่า “ถอยได้แต่อย่าท้อ” ไม่ใช่ “ท้อได้แต่อย่าถอย”
คือ ถ้ารู้ว่าผิดต้องยอมถอย ยอมแพ้ให้เป็น แล้วไม่ท้อ เพื่อสู้ใหม่ในวันพรุ่งนี้
.
แต่เรื่องนี้ก็คงจะโทษใครไม่ได้นอกจากเมสซี่ที่ยิงจุดโทษไม่เข้า ทำให้คนเสียใจ น้ำตานอง เลยปลูกถั่วเหลืองได้ดี ราคาเลยลง