Jitta รายงานผลตอบแทนประจำปีออกมาแล้วนะครับ อธิบายสั้น ๆ ก่อนแบบนี้ว่า
.
1) หลักการซื้อคือ “Buy a wonderful company at a fair price” หรือ ซื้อหุ้นดีในราคาที่เหมาะสม
.
2) Jitta Score เป็นตัวบอกคุณภาพหุ้นสเกล 0-10 และ Jitta Line เป็นตัวบอกราคาที่เหมาะสม ควรพิจารณาซื้อเมื่อราคาหุ้นอยู่ below Jitta Line

3) ทำแบบนี้กับหุ้นทุกตัวในตลาดแล้วเอามาเรียงลำดับเรียกว่า Ranking
.
4) ต้นปีซื้อ Top 30 Ranking มูลค่าเท่า ๆ กันทั้งพอร์ต คือ กระจายความเสี่ยงเท่ากันหมด
.
5) สิ้นปีปรับพอร์ตครั้งเดียว ตัวไหนติดอยู่ใน Top 30 Ranking ก็ถือต่อ ตัวไหนหลุดก็ขาย
.
6) ทำแบบนี้ไปทุกปี โดยมองผลลัพธ์ระยะยาวเป็น 10 ปี ขึ้นไป เพราะเชื่อว่าจะมีปีที่กำไรและปีที่ขาดทุน แต่ระยะยาวผลตอบแทนจะเติบโต
…
=============================
.
** ผลตอบแทน Jitta Top 30 ตลาดหุ้นไทย **
.
• ปี 2018 -13.5% vs. SET -10.8% vs. SET50 -7.9%
• 5 ปีย้อนหลัง ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น +10.8% vs. SET50 +3.4%
• 10 ปีย้อนหลัง ผลตอบแทนเฉลี่ยทบต้น +22.9% vs. SET50 +12.7%
…
ดูปีเดียวอาจจะเห็นว่าแพ้ทั้งตลาดและ SET50 อยู่นิดหน่อย แต่ถ้าย้อนไป 5-10 ปี ก็จะเห็นว่าชนะตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งก็เป็นตามหลักการ คือ ระยะสั้นอาจขาดทุนเป็นบางปี แต่ระยะยาวถ้าเชื่อในตลาดหุ้นว่ายังเป็นขาขึ้นอยู่ ผลตอบแทนก็จะเติบโต
..
มองเป็นตัวเลขให้เห็นชัดคือ ถ้าเริ่มลงทุนปี 2009 ด้วยเงิน 10,000 บาท พอมาจบสิ้นปี 2018 จะได้เงินเกือบ 80,000 บาท พูดง่ายๆ คือ 8 เด้ง ใน 10 ปี (ปรับพอร์ตปีละครั้งนะ)
…
==============================
.
** ปี 2018 Jitta ถือหุ้นอะไรบ้าง **
.
เราเข้าไปไล่ดูย้อนหลังได้เลยว่าหุ้น 30 ตัว มีอะไรบ้างที่ Link นี้ bit.ly/jittarankingtop30 แต่อยากสรุปให้เห็นภาพชัดขึ้นแบบนี้
.
• กำไร 6 ตัว
.
AEONTS +76% KTC +64% >> สินเชื่อและบัตรเครดิตทั้งคู่ และซื้อมาตั้งแต่ปี 2017 แล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาซื้อตอนขึ้นแรง ๆ
.
SIS 22.5% MSC 22.2% >> ขายอุปกรณ์ IT ทั้งคู่ เพิ่งซื้อปี 2018
.
TMW +15% >> เพิ่งซื้อเป็นปีแรกเช่นกัน เป็นหุ้นยานยนต์ที่ติดโผเข้ามา คือ หุ้นยานยนต์เคยติด Rank มาตอนแรก ๆ แต่พอหลังรถคันแรก หุ้นกลุ่มนี้หลุดโผออกไป เพิ่งจะกลับมาอีกรอบ
.
SHANG +5% >> เป็นหุ้นโรงแรมตัวเดียวที่ติด Rank ในรอบ 10 ปี เคยซื้อครั้งนึงตอนปี 2016 แล้วขายไป ก่อนกลับมาซื้ออีกรอบปี 2018
..
• ขาดทุน 24 ตัว เอาตัวที่ติดลบเยอะ ๆ ได้แก่
.
SYNTEC -51% 2S -48% LIT -47% OISHI -43% THREL -41% ASIMAR -36%
.
• จุดสังเกต คือ ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ไม่ได้เลือกว่าซื้อตัวไหนที่ดีกว่า คือถ้าดีทั้งคู่ก็ซื้อทั้งคู่ รักเท่ากันแบ่งเงินซื้อเท่ากัน
.
• ตัวที่ขาดทุนมาก ถ้าไม่สิ้นปี ไม่หลุด Rank ไม่มีการคัทลอส ทำให้เห็นการขาดทุนระดับ 40-50% ได้
.
• ตัวที่ขาดทุนมาก กระจายไปหลากหลายอุตสาหกรรม ตั้งแต่ขนส่ง สินเชื่อ ประกันภัย ต่อเรือ หรือกระทั่งคอมโมอย่างเหล็ก
• เพราะกระจายพอร์ตเท่า ๆ กัน การชนะแค่ 6 ตัว ทำให้แบกรับตัวขาดทุนที่เหลือไม่ได้ ทั้งพอร์ตเลยขาดทุน
• บางคนอาจมองว่า AEONTS และ KTC บวกเยอะ ถ้าไม่มี 2 ตัวนี้ พอร์ตน่าจะติดลบมากกว่านี้ แต่ผมว่ามองแบบนั้นก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะเค้าก็ซื้อ 2 ตัวนี้มาก่อนตั้งแต่ปี 2017 ไม่ได้เพิ่งมาซื้อ และมันเป็นไปได้ที่ในแต่ละปี เราจะเจอหุ้นที่บวกเยอะ ๆ หรือลบเยอะ ๆ เช่นกัน
..
============================
..
** ถ้าย้อนอดีตไปดูตั้งแต่ปี 2009 ถือหุ้นอะไรบ้าง**
.
ผมลองเอารายชื่อหุ้นแต่ละตัวมาใส่ลงตารางแต่ละปีแล้วลองมานั่งไล่ดูว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่น่าสนใจ ผมมองแบบนี้ครับ
.
• ไม่ได้มีหุ้นตัวไหนที่ถือยาวตัวเดียวเป็น 10 ปี เราอาจจะเห็นว่ามีซื้อหุ้นอย่าง AEONTS, TCAP, SPALI ตั้งแต่ปี 2009 แต่ก็ถือแค่ 2-3 ปี แล้วก็ขายออก ตามโมเดลที่อาจจะหลุด Top Rank แต่ถ้าปีไหนที่กลับเข้ามาอยู่ใน List ก็พร้อมที่จะซื้อกลับมา คือ อาจจะบอกได้ว่า ขายหมู แต่พอเข้าเกณฑ์ตามระบบก็ยินดีที่จะซื้อกลับ
.
• เราเจอหุ้นหลายเด้ง หรือหุ้นห่านทองคำแบบ HMPRO ที่ราคา 0.47 บาท BH ที่ 21.20 บาท RAM ที่ราคา 532 บาท ถ้าซื้อแล้วถือไว้เฉย ๆ จะทำให้ได้ผลตอบแทนมากกว่า แต่ด้วยระบบที่วางไว้ทำให้ต้องขายออกมา ซึ่งอาจเป็นเพราะมันไม่ได้โชว์ความแข็งแกร่ง ณ ตอนนั้น เลยขายหมูไป
.
• ถ้ายังงั้น เราไม่ปรับพอร์ตรายปีได้มั้ย เราขายตอน above jitta line แล้วค่อยกลับมาซื้อใหม่ตอน below jitta line เท่าที่สังเกตก็สามารถทำได้นะ แต่หลายตัวจะทำให้เราซื้อขายค่อนข้างบ่อย โดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ ที่ตลาดค่อนข้าวสวิง และทำให้เกิดการขายหมู หรือบางทีคัทลอสไปได้
.
• หรือแอบคิดเองว่า ถ้าปรับโมเดลให้น้ำหนัก jitta score มากขึ้นจะทำให้ได้หุ้นคุณภาพดีในระยะยาวติด Rank นานขึ้นหรือเปล่า จะได้ทำให้เราไม่ขายหมูหุ้นตัวนั้นออกไป
.
• เรื่องการกระจายหุ้น เท่าที่สังเกตุช่วงแรก ๆ หุ้นมีการกระจายไปหลายอุตสาหกรรม แต่ช่วงหลัง ๆ อาจจะเป็นตามสภาพตลาดทำให้เราเห็นการถือหุ้นสินเชื่อ ธนาคาร หลายตัว ตามมาด้วยอสังหา ไอที และก็อื่น ๆ กระจายกันไป
.
• มีการถือหุ้นอย่าง commodity เช่น ไก่ เหล็ก ถั่วเหลือง ติดมาด้วย และหลายครั้งผลตอบแทนมักไม่ดี ถือได้ปีเดียวก็ต้องขายออกไป เดาว่าจังหวะตอนที่ติด Rank มาคือ งบมันเริ่มดีแล้วจากรอบของวัฎจักร ทำให้ Score ดี และราคาก็ปรับสูงขึ้นแล้วแต่ยัง beow jitta line อยู่ พอเราซื้อเข้ามามันก็อาจใกล้จบรอบ ทำให้ส่วนใหญ่มักขาดทุน
..
==================================
.
** ปี 2019 Jitta ถือหุ้นอะไรบ้าง **
..
10 ตัวแรกมี S11, KGI, AP, AEONTS, VIH, ORI, TMW, BLA, IVL, SIS
.
10 ตัวต่อมา คือ THANI, UTP, ASK, TCAP, SENA, AH, IFS, PTTGC, STANLY, VNT
.
10 ตัวสุดท้าย คือ SMPC, TISCO, MSC, SCP, GOLD, BFIT, SC, SMIT, TVO, COM7
…
• เก็บตัวเดิมจากปี 2018 ไว้ 7 ตัว คือ AP, AEONTS, TMW, SIS, TCAP, TISCO และ MSC จะเห็นว่าขาย KTC ออกไปแล้ว อาจเป็นไปได้ว่าแพงไป
.
• มีหุ้นยานยนต์ติดมา 3 ตัว คือ TMW, STANLY, AH ซึ่งถ้าดูงบมันดี แต่แนวโน้มในอนาคตเราเริ่มเห็นการผลิตชะลอลง แปลว่า งบปี 2019 อาจไม่โตมากก็ได้
.
• หุ้นที่กำไรโตเยอะ ๆ มาก่อนแต่อนาคตที่ยังไม่เฉลยเราไม่รู้ว่าจะเริ่มโตช้าลงมั้ย เช่น ORI, COM7, AEONTS ก็น่าจับตามองว่าราคาหุ้นจะเป็นอย่างไร
.
• หุ้นคอมโมหรือกึ่งคอมโมก็ยังติดมาอย่างเช่น TVO, UTP, VNT ก็ต้องลองดูว่าจะมาช่วยหรือไม่ช่วยกันแน่
.
• กลุ่มสินเชื่อและอสังหาก็ยังดูมีหลายตัวเหมือนเดิม
.
..
สรุป มุมมองผมคือว่า Jitta Ranking ระยะยาว ถือว่าทำผลงานได้ดีมาก เติบโตระดับเกิน 20% ต่อปี ไม่ธรรมดาเลย แต่ถ้าเป็นไปได้อยากได้โมเดลเพิ่มเติมเป็นทางเลือกเพื่อจะได้คัดหุ้นดีที่เราไม่ต้องซื้อขายบ่อย ๆ และทำผลตอบแทนได้หลายเด้งในระยะยาว อาจลองพิจารณาทางเลือกแบบนี้เป็นไอเดียนะครับ
.
1) Weight Jitta Score มากกว่า Line แต่ก็ยังต้องซื้อที่ Below Line จะทำให้เราถือหุ้นอย่าง RAM, BH, HMPRO ได้
.
2) ไม่ได้ Fix ปรับพอร์ตรายปี แต่หาเกณฑ์อื่นมาพิจารณาเพิ่มเติม
.
3) หุ้นคอมโม ซื้อได้นะ แต่อาจต้องสลับสูตรให้หน่อย คือ ซื้อตอนที่อัตราส่วนแพง ๆ แต่ราคาต่ำ ๆ ซึ่งแปลว่า Jitta Score มันต้องใส่ Factor บางอย่างเข้าไป
.
4) ทำยังไงถึงจะคาดการณ์อนาคตได้ว่า หุ้นที่เราคัดมาตอนที่งบมันดีอยู่ แต่อนาคตมันอาจจะไม่โตแล้ว ถึงแม้ว่าราคาที่ซื้อจะไม่แพง แต่ผลตอบแทนก็อาจจะไม่สูงมาก
.
ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม หรือตลาดต่างประเทศสามารถติดตามได้ที่เพจ Jitta Thailand