ผมเคยพูดถึงประเทศฟิลิปปินส์ไปตอนสรุป GDP Q2’18 ว่าให้เริ่มระวังเพราะ GDP ลดลงจาก Q1 ที่ระดับ 6.6% มาเหลือ 6% พอดีมาเห็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นติดต่อกันทุกเดือน ส่าสุดเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 6.4% สูงสุดในรอบ 9 ปีและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มต่อเนื่องในเดือนกันยายน (อาจจะทะลุ 7%) ซึ่งส่งผลให้ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทั้งหลายแพงขึ้นเป็นเงาตามตัว ทำให้อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้ พอดีน้อง นักลงทุน กลางทะเล แนะนำข้อมูลให้ อ่านแล้วได้ความรู้ดีเลยอยากสรุปให้ครับ
1) ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้น
.
เอ๊ะ แต่ทุกประเทศก็น่าจะกระทบหมดสิ ปัญหาคือ ฟิลิปปินส์มีสัดส่วนนำเข้ามากกว่า 90% มากกว่าประเทศอื่นเลยโดนผลกระทบเยอะ อย่างไทยสัดส่วนนำเข้า 70% อินโดนีเซีย 41% เวียดนาม 20%
.
2) การปฏิรูปภาษี
.
รัฐบาลของดูเตอร์เต้ มีนโยบายที่เรียกว่า “Build Build Build” คือ สร้างระบบสาธารณูปโภคขนานใหญ่ทั้งถนน สะพาน รถไฟฟ้าใต้ดิน ทำให้ต้องหาเงินโดยการปฎิรูปภาษี คือ เก็บภาษีน้ำมัน เครื่องดื่ม ถ่านหิน เหล้า บุหรี่ ฯลฯ ทำให้น้ำมันที่แพงอยู่แล้ว แพงขึ้นไปอีก
.
3) ค่าเงินเปโซอ่อนสุดในรอบ 12 ปี
.
ประเด็นหลักก็มาจากนโยบาย “Build Build Build” ทำให้เกิดความต้องการนำเข้าวัตถุดิบมาใช้ในการก่อสร้างจำนวนมากเช่น เหล็ก ซึ่งทำให้การนำเข้าเติบโตเป็นเลขสองหลัก ขณะเดียวกันการส่งออกก็เริ่มไม่โตมาก เริ่มขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ทำให้ค่าเงินอ่อนค่าลง เวลาซื้อของอะไรก็จะแพงไปหมด
..
4) ไต้ฝุ่นมังคุด
.
อันนี้สดๆ ร้อนๆ ทำให้พืชผลการเกษตรเสียหายโดยเฉพาะข้าวที่เสียหายจำนวนมาก และทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น นอกจากนั้นผัก ผลไม้ น้ำตาล ก็ราคาสูงขึ้นด้วย ส่งผลให้ราคาเพิ่ม เงินเฟ้อเพิ่มตามมาอีก
….
ผลกระทบที่เห็นชัดสุดเลยคือ การบริโภคภาคครัวเรือน หรือตัว C ซึ่งเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจขยายตัวลดลงจากร้อยละ 6.2 เมื่อสิ้นปีก่อนเป็นร้อยละ 5.6-5.7 ในปีนี้ เพราะฉะนั้นถ้ามีสินค้าอุปโภคบริโภคไทยแบรนด์ไหนไปขายในฟิลิปปินส์เองก็น่าจะโดนกระทบจากกำลังซื้อที่ลดลงด้วยเหมือนกัน
.
ส่วนในระยะต่อมาก็คงต้องตามดูว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาแบบไหน เช่น อาจจะขึ้นดอกเบี้ย หรือปรับลดอัตราภาษี ซึ่งก็จะมีผลกระทบด้านอื่นตามมาอีก เช่น การลงทุนจะชะลอมั้ย หรือค่าเงินจะเป็นอย่างไร ลองติดตามกันดูครับ
..
ใครสนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ลองอ่าน 2 บทความนี้ครับ น่าจะทำให้เห็นภาพครอบคลุม ส่วนประเทศไทยน่าจะยังไม่ได้ไปถึงจุดนั้นเพราะเงินเฟ้อประมาณ 1.5% แต่ก็มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยเหมือนกัน ส่วนนโยบายบ้านเราคงไม่ได้เป็นแบบ “Build Build Build” แต่น่าจะเป็น “สร้าง ซ่อม สร้าง ทุบ แล้วก็ซ่อม” มากกว่า
.
https://www.rappler.com/thought-leaders/211285-analysis-reasons-philippine-inflation-now-highest-asean
.
https://www.bloomberg.com/news/articles/2018-09-20/sun-life-sees-7-inflation-in-the-philippines-in-wake-of-typhoon