เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมามีข่าวดราม่ากับหุ้นตัวนี้เยอะมากทำให้ราคาหุ้นที่วิ่งขึ้นไปเกือบ 40% ในรอบ 3 เดือน จากจุดสูงสุดที่ราคา 9.20 บาท ตกลงมาที่ 5.20 บาท และสุดท้ายก็เด้งกลับไปปิดที่ 6.60 บาท เมื่อวานนี้ ผมขอไม่พูดถึงเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นนะครับเพราะผมไม่รู้ว่าอะไรจริงไม่จริง แต่อยากจะเล่าให้ฟังว่า ถ้าเป็นในแง่พื้นฐานแล้วหุ้นตัวนี้น่าสนใจแค่ไหน
ECF เริ่มจากรุ่นคุณพ่อวัลลภ สุขสวัสดิ์ ทำโรงเลื่อย โรงอบไม้ และลงขันกับเพื่อน ๆ ทำโรงงานชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ส่งออกไปประเทศญี่ปุ่น คุณอารักษ์ ลูกชายคนกลาง ติดสอยห้อยตามคุณพ่อไปดูงานตามที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้รู้เรื่องของ ECF ทุกซอกทุกมุม
..
ก่อนที่จะมาสานต่อธุรกิจครอบครัว คุณอารักษ์เคยขายประกันที่ AIA มาก่อน ขายดีจนได้เงินมาก้อนนึงเอาไปเปิดร้านเครื่องเสียงกับเพื่อน สุดท้ายเจ๊งเพราะยังไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจเท่าไหร่ แล้วก็ไปเรียนต่อที่อเมริกา พอกลับมาก็เข้ามาทำธุรกิจที่บ้าน และเริ่มต้นด้วยการขยายฐานลูกค้าไปต่างประเทศ เอาเครื่องมือเครื่องจักรมาลงจนเติบโตมาถึงทุกวันนี้
..
===============================
.
** ปัจจุบัน ECF มีธุรกิจอะไรบ้าง **
..
• หลัก ๆ เลย คือ ผลิต นำเข้า และจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด รองลงมาคือไม้ยางพารา มีทั้งรับจ้างผลิตให้คนอื่น เช่น Fur Direct ขาย Big C, Leaf ขาย Homepro, a7 ขาย Mega Home ฯลฯ และยังมีแบรนด์ตัวเองชื่อ ELEGA ซึ่งมักจะมีโชว์รูมอยู่ใน Index Furniture (เพราะคุณอารักษ์แต่งงานกับลูกสาวเจ้าของ Index ซึ่งตอนนี้มาเป็นผู้บริหารเต็มตัว)
.
• 52% ขายต่างประเทศ เน้นญี่ปุ่นเป็นหลัก (93% ของรายได้ต่างประเทศมาจากญี่ปุ่น) เจ้าใหญ่ชื่อ นิโตริ มีสาขามากถึง 300 แห่ง
.
• มีร้าน Can Do คือร้าน 100 เยน ของญี่ปุ่น แต่ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ เพราะทางญี่ปุ่นไม่ค่อยยืดหยุ่นให้ปรับเปลี่ยนอะไร ตรงนี้เลยไม่ค่อยโต มีอยู่แค่ 3-4 แห่ง เป็นธุรกิจที่ไม่เน้น
.
• พลังงานทดแทน ไปลงทุนในโรงไฟฟ้าชีวมวลที่นราธิวาส 7.5 MW ถือหุ้นประมาณ 30% โดยค่าไฟที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะดีกว่าที่อื่น COD ไปตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้ใหญ่มากนะ
..
** ผลประกอบการของ ECF เป็นอย่างไร **
.
ปี 2558 รายได้รวม 1,358 ล้านบาท กำไรสุทธิ 75 ล้านบาท (GPM 26.4%, NPM 5.5%)
ปี 2559 รายได้รวม 1,428 ล้านบาท กำไรสุทธิ 62 ล้านบาท (GPM 28.3%, NPM 4.4%)
ปี 2560 รายได้รวม 1,498 ล้านบาท กำไรสุทธิ 73 ล้านบาท (GPM 19.6%, NPM 4.9%)
..
1H60 รายได้รวม 727 ล้านบาท กำไรสุทธิ 23 ล้านบาท (GPM 29.2%, NPM 3.2%)
1H61 รายได้รวม 705 ล้านบาท กำไรสุทธิ 13 ล้านบาท (GPM 30.6%, NPM 1.8%)
..
3 ปีที่ผ่านมา รายได้ขายเฟอร์นิเจอร์ยังพอโตได้แบบเลขหลักเดียว มาปีนี้เริ่มไม่โต มาร์จิ้นไม่แย่ใกล้ ๆ 30% แต่ที่น่าแปลกใจคือ SG&A ไม่น้อยเลย ประมาณเกินกว่า 20% ได้ เพราะมีทั้งต้นทุนจัดจำหน่ายและต้นทุนค่าบริหาร แถมยังต้องจ่ายดอกเบี้ยเยอะอีก ทำให้สุดท้ายกำไรสุทธิบางมาก ล่าสุดเหลือไม่ถึง 2%
..
ถ้าดูงบกระแสเงินสด ค่อนข้างน่ากังวลที่ CFO ติดลบมาตลอด คือขายเฟอร์นิเจอร์ ไม่น่าจะเก็บเงินไม่ได้นะ ส่วน CFI ติดลบเพราะลงทุนอยู่ และ CFF เป็นบวก เพราะไปเพิ่มทุนมา (PP และ Warrant) คือ กำลังขยายกิจการสร้างโรงไฟฟ้าอยู่ แต่รายได้ยังไม่เข้ามา
..
Cash Cycle 339 วัน เกือบปีเลยนะนั่น ไปจมกับสินค้าคงเหลือ เฟอร์นิเจอร์ทั้งหลาย
..
=========================
.
** Growth Story ของ ECF **
.
ถ้าเราเป็นผู้บริหาร เราจะเห็นแล้วว่า ธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์เริ่มจะอิ่มตัว พึ่งญี่ปุ่นเยอะมาก แถมกำไรสุทธิไม่ค่อยดีด้วย เพราะฉะนั้นต้องหาทางไปทำอย่างอื่นที่กำไรดีกว่าและกระจายความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น จึงเป็นที่มาของ 2 ธุรกิจใหม่ นั่นก็คือ
.
1) พลังงานทดแทน มีชีวมวลอยู่แล้วในประเทศ ตอนนี้ไปร่วมทุนทำ Solar ที่พม่า โครงการมินบู 220 MW แต่มีอัตราการรับซื้อไฟสูงสุด 170 MW โดย ECF ถือ 20% กดเครื่องคิดเลขออกมาได้ 34 MW ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่แบ่งโครงการเป็น 4 เฟส ๆ ละประมาณ 40-50 MW นั่นแปลว่า ECF จะรับรู้เข้ามาปีนี้ตามสัดส่วนก็น่าจะ 8 MW ที่เหลือก็ทยอยรับรู้จนกว่าจะครบทุกเฟส
.
2) IT เป็นอีกธุรกิจที่ผู้บริหารบอกว่ากำลังคุยกันอยู่ เจรจาไประดับหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่าคืออะไร และจะจบยังไง
..
ผู้บริหารตั้งเป้าว่า สัดส่วนรายได้จะมาจากธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ 30% โรงไฟฟ้า 30% ไอที 30% และอื่น ๆ อีก 10% โดยอีก 5 ปี ข้างหน้าตั้งเป้ารายได้ 10,000 ล้านบาท แปลว่าจะโตจากวันนี้ 6-7 เท่าเลยทีเดียว
..
เรื่องหนึ่งที่เราต้องดูคือ การจะโตขนาดนี้ต้องลงทุน แล้ว ECF มีเงินพอมั้ย ?
.
เงินสดมี 180 ล้านบาท เงินแปลงสภาพ Warrant ราว ๆ 900 ล้านบาท
เหลือบไปดู D/E 1.54 เท่า เมื่อก่อนเกิน 2 เพราะเพิ่มทุน PP มาเลยลดลง แปลว่ายังพอกู้ได้ แต่กระแสเงินสดติดลบ แบงค์อาจคิดหนัก แปลว่าถ้ามีโครงการใหญ่เกินพันล้าน เราอาจเห็นการ PP อีกรอบ
.
สรุป ECF พื้นฐานดูกลาง ๆ เฟอร์นิเจอร์เริ่มอิ่มตัว จะโตก็คงมาจากพลังงานทดแทน แต่ก็ไม่ได้ถือในสัดส่วนที่เยอะมาก ๆ ส่วน IT ก็ยังไม่ชัดว่าจะทำอะไร จะให้ซื้อหุ้นแล้วลุ้นว่าจะมีดีลขนาดใหญ่ โดยต้องแลกกับ P/E 100 เท่า บวกกับกระแสเงินสดติดลบ และเผลอ ๆ อาจต้องเพิ่มทุน ยิ่งตอนนี้มีข่าวดราม่าเข้ามาอีก บอกตรง ๆ ถ้าจะลงทุนระยะยาวผมไม่กล้าวัดดวงด้วยเลย
.