กูลิโกะ … ในวันที่กำไรไม่ส่องสว่าง

ใครเคยไปถ่ายรูปชูมือและยกขา 1 ข้าง กับ ป้ายไฟกูลิโกะ ที่ย่านโดตมโบริบ้างครับ ?
.
ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว คุณริอิจิ เอซากิ ผู้ก่อตั้งบริษัทกูลิโกะ เดินเล่นอยู่ริมแม่น้ำแถวบ้าน เห็นชาวประมงกำลังต้มซุปหอยนางรมอยู่ นึกขึ้นมาได้ว่าเคยอ่านบทความเจอว่า ในหอยนางรมมี “ไกลโคเจน” มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงไปขอน้ำซุปจากชาวประมงมาแล้วส่งไปให้โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยช่วยตรวจให้หน่อย และก็พบว่าไม่เพียงแค่ไกลโคเจน แต่ยังมีแคลเซียม ทองแดง และสารอาหารอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมาก

ต่อมาเขาไปปรึกษาคุณหมอและนำสารสกัดอันนี้ไปให้ลูกชายที่ป่วยเป็นไทฟอยด์ (ไข้รากสาด) และอาการก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเป็นลำดับ ทำให้เขาเกิดแรงบันดาลใจอยากให้เด็ก ๆ มีสุขภาพที่ดี จึงได้ทำลูกอมรสคาราเมลที่มีส่วนผสมของไกลโคเจนขึ้นมา และตั้งชื่อว่า “Glico” ก็มาจากคำว่า “Glycogen” นั่นเอง
..
ลูกอมรูปหัวใจถูกบรรจุอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมสีแดง พร้อมรูปนักวิ่งมาราธอนชูสองมือ กำลังวิ่งเข้าเส้นชัย เป็นสัญลักษณ์ของความแข็งแรง และนั่นคือที่มาของ “กูลิโกะแมน” และนำมาติดเป็นป้ายโฆษณาตั้งแต่ปี 1935 โดยป้ายรุ่นที่ 1 มีรูปร่างคล้ายปรอทและมีกูลิโกะแมนตัวเล็กวิ่งอยู่
.
ต่อมาได้ทำการเปลี่ยนรูปแบบอีกหลายครั้ง เวอร์ชั่นล่าสุดเป็นป้ายรุ่นที่ 6 เปลี่ยนเมื่อปี 2014 เป็นรูปกูลิโกะแมนวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ด้านหลังมีจุดวงกลมสีแดงอันใหญ่แสดงถึงสัญลักษณ์แห่งธงชาติญี่ปุ่น โดยใช้หลอด LED ประหยัดพลังงานถึง 140,000 ดวง ป้ายนั้นมีขนาดกว้าง 10.38 เมตร และสูง 20 เมตร
.
=====================
.
ตัดภาพมาที่ปี 2019 ขณะที่นักท่องเที่ยวยังคงถ่ายรูปกับป้ายไฟที่ส่องสว่างในยามค่ำคืนอย่างคึกคัก แต่อีกมุมถนน ตัวบริษัทกูลิโกะเองกลับมีธุรกิจที่ไม่สดใสเท่าไหร่นัก เพราะรายได้ไม่เติบโต และกำไรลดลง ผมไปเปิดดูตัวเลขจาก Jitta (ใครอยากหาข้อมูลงบการเงินหุ้นต่างประเทศ เปิด Jitta ได้ครับ cover ไว้ 16 ประเทศ ช่วยประหยัดเวลาได้มากทีเดียว)
..
รายได้และกำไรของ Glico เป็นแบบนี้ (ปิดงบปีเดือนมีนาคม)
..
ปี 2015 ยอดขาย 89,299 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,890 ล้านบาท
ปี 2016 ยอดขาย 94,623 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,887 ล้านบาท
ปี 2017 ยอดขาย 98,756 ล้านบาท กำไรสุทธิ 5,074 ล้านบาท
.
ปี 2018 ยอดขาย 98,816 ล้านบาท กำไรสุทธิ 4,254 ล้านบาท
ปี 2019 ยอดขาย 97,932 ล้านบาท กำไรสุทธิ 3,311 ล้านบาท
..
ในช่วง 3 ปีหลัง รายได้ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ และกำไรลดลงเร็วกว่ามาก ถ้าเราไปเจาะดูรายละเอียด เราจะพบว่าสัดส่วนรายได้ของ กูลิโกะ แบ่งได้ตามนี้
..
• 27% ธุรกิจขนม เติบโต -4.4%
• 26% ธุรกิจเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์จากนม เติบโต -3.7%
• 24% ธุรกิจไอศกรีม เติบโต -2.4%
• 15% ธุรกิจที่ทำในต่างประเทศ เติบโต +8.2%
..
ธุรกิจขนมเองเคยมีสัดส่วนที่มากกว่านี้ประมาณ 1 ใน 3 ของรายได้ แต่ค่อย ๆ โตลดลงเรื่อย ๆ แบรนด์ดังที่เรารู้จักอย่าง Pocky, Pretz, Collon มียอดขายที่ลดลง ขณะที่สินค้าที่เป็นขนมเกี่ยวกับสุขภาพมียอดโตขึ้น เช่น Libera, Gaba Chocolate และที่โตดีคือ Almond Koka กับ Sunao ก็คงจะเป็นไปตามแนวโน้มของการรักษาสุขภาพมากขึ้น
..
อีกหนึ่งธุรกิจที่โตดี คือ นมสำหรับเด็กเล็ก ที่เพิ่งขายได้ไม่นาน ยอดขายยังเล็กอยู่ และธุรกิจต่างประเทศที่ยังเติบโตได้ดีโดยเฉพาะตลาดจีน และสหรัฐอเมริกา

GPM ของกูลิโกะจัดว่าสูงที่ 47.4% แต่ว่าด้วยการแข่งขันที่สูง และการขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ต้องใช้เม็ดเงินจำนวนมากทั้งโฆษณา การตลาด และการกระจายสินค้า ทำให้ EBIT เหลือเพียง 4.7% และดีที่ไม่ค่อยมีหนิ้สิน NPM จึงอยู่ที่ 3.4% และยังมีแนวโน้มลดลง
..
ใครมีโอกาสแวะไปถ่ายรูปกับป้ายกูลิโกะ ก็อย่าลืมช่วยอุดหนุนสินค้าคนละกล่องสองกล่อง กูลิโกะแมนจะได้มีพลังวิ่งส่องแสงได้ต่อไปนะครับ
.
ข้อมูลเพิ่มเติมนอกจาก Jitta สามารถดูได้ที่ Glico ตามนี้เลยครับ
https://www.glico.com/global/ir/library/presentation/
..
#กูลิโกะ #Jitta #วิตามินหุ้น